Yamaha MG Series อะนาล็อกมิกเซอร์

Yamaha MG Series

Yamaha MG Series อะนาล็อกมิกเซอร์ มาพร้อมไมค์ปรี D-PRE และเอฟเฟ็กต์ SPX คุณภาพเทียบชั้นรุ่นใหญ่ มีให้เลือกตั้งแต่ 6 แชนแนลขึ้นไป MG06, MG06X, MG10XU และ MG12XU

หากกล่าวถึงอุปกรณ์หลักในระบบเสียง PA หรือ Studio นั้น อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้คือมิกเซอร์ ในสตูดิโอบางแห่งยังมีความจำเป็นต้องใช้มิกเซอร์อยู่ แต่บางแห่งอาจใช้มิกเซอร์ที่อยู่ในรูปของซอฟต์แวร์เป็นหลัก ส่วนงานฝั่ง PA นั้น ตัวมิกเซอร์กลายเป็นสิ่งที่ต้องมี

Yamaha MG Series

ปัจจุบันมีมิกเซอร์ให้เลือกอยู่ 2 ประเภทคือดิจิตอลกับอะนาล็อก สำหรับ Yamaha เป็นผู้นำตลาดมิกเซอร์มาหลายทศวรรษ ที่นี่ผลิตทั้งมิกเซอร์อะนาล็อกและดิจิตอล ด้วยชื่อชั้นของ Yamaha ตั้งแต่เครื่องดนตรีไปจนถึงอุปกรณ์ทัวร์คอนเสิร์ตล้วนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

Yamaha MG Series เป็นมิกเซอร์อะนาล็อก ตระกูลหนึ่งที่ออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีเดียวกับอุปกรณ์คอนโซลไฮเอ็นด์ ไม่ว่าจะเป็นภาคไมค์ปรี ภาค DSP และเกรดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาผลิต ดังนั้นคุณภาพจึงวางใจได้

MG Series เป็นมิกเซอร์ที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย ขนาดกระทัดรัด มีให้เลือกหลายรุ่นตั้งแต่ขนาด 6 แชนแนลจนถึง 20 แชนแนล รองรับงานได้หลากหลายประเภท ทั้งงานติดตั้งถาวร งานบันทึกเสียง และงานแสดงดนตรีสด

บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จัก MG Series ได้แก่ MG06, MG06X, MG10XU และ MG12XU

Yamaha MG Series ดีไหม

มิกเซอร์ตระกูลนี้มีข้อดีหลายอย่าง ประการแรกออกแบบวงจรและวางโครงสร้างมิกเซอร์ได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาภาคไมค์ปรีที่ให้โทนเสียงเหมือนรุ่นใหญ่ๆ ตัว MG บางรุ่นสามารถบันทึกเสียงผ่านพอร์ต USB ได้ ซึ่งรองรับการบันทึกแบบสเตริโอแทร็ก ตามแบบฉบับของออดิโออินเตอร์เฟซทั่วไป และยังแถมซอฟต์แวร์ของ Steinberg ให้อีกด้วย

Yamaha MG06 (ซ้ายมือ) | MG06X (ขวามือ)

มิกเซอร์ตระกูล MG ผู้ใช้ต่างชมว่าเป็นมิกเซอร์ที่มีคุณภาพดี ให้เสียงนุ่มนวล คมชัด ทนทาน ด้านเอฟเฟ็กต์ก็ไม่แพ้ใคร บางรุ่นในตระกูลนี้จะให้เอฟเฟ็กต์ดิจิตอล เป็นชุดเอ็นจิ้นเอฟเฟ็กต์ SPX ระดับตำนาน ซึ่งเสียงของมันนั้นถือว่าคลาสสิคมาก ในวงการเครื่องเสียง PA รู้จักกันดี มีให้เลือกใช้หลายโปรแกรม

รวมถึงช่องเชื่อมต่อสัญญาณ พวกแจ็คมาตรฐานชนิดต่างๆ อาทิ XLR, TRS, RCA มิกเซอร์ MP ทุกรุ่นเลือกใช้คอนเน็กเตอร์จากแบรนด์ Neutrik จึงมั่นใจในเรื่องความทนทาน

MG สามารถนำไปใช้กับอีเว้นต์ต่างๆ ได้อย่างกว้างมาก ทั้งงาน Live โปรดักชั่น คลับ หอประชุม ห้องบรรยาย ห้องซ้อม สตูดิโอ และอีก ฯลฯ นอกจากนี้บางรุ่นได้ใส่คอมเพสเซอร์แบบจิ๋วเพื่อให้ใช้งานง่ายๆ เหมาะกับเสียงร้องและเครื่องดนตรีที่ต้องการควบคุมไดนามิก เช่น เบส และกีตาร์ไฟฟ้า ตลอดจนกลองอะคูสติก หรืออุปกรณ์ประเภทอื่นที่มาจากแหล่งกำเนิดที่ต่างกัน

ในกล่อง MG06/MG06X มีคู่มือและอะแด็ปเตอร์ให้

D-PRE (Discrete Class-A Mic Preamps)

D-PRE เป็นชื่อวงจรไมค์ปรีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ Yamaha ไล่ตั้งแต่มิกเซอร์จิ๋วไปจนถึงคอนโซลมิกเซอร์ราคาหลักล้าน วงจรนี้ได้กลายเป็นวงจรมาตรฐานของแบรนด์นี้ วงจร D-PRE เป็นวงจร Inverted Darlington แบบ Class-A บรรดา Class ของวงจรขยายสัญญาณเสียง ในทางเทคนิควงจรลักษณะนี้ให้สัญญาณเอาต์พุตผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ดังนั้น สัญญาณที่ได้จากวงจร D-PRE จึงคมชัด บริสุทธิ์ครบถ้วน

High Quality Op-amp

Yamaha ได้ร่วมมือกับโรงงานผู้ผลิตไอซี โดยออกแบบและผลิตไอซีออปแอมป์รุ่น MG01 ขึ้นเพื่อใช้กับมิกเซอร์ MG โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อให้คุณภาพเสียงของ MG มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากคู่แข่ง ปกติมิกเซอร์ทั่วไปอาจเลือกใช้ออปแอมป์ที่มีในท้องตลาด ซึ่งมักเป็นออปแอมป์ที่ผลิตเพื่อใช้งานกว้างๆ ไม่ได้เจาะจงกับงานเสียง หากผู้ผลิตรายใดต้องการโทนเสียงที่ดีก็ต้องมาจัดวงจรด้านนอกเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี ออปแอมป์ MG01 ของ Yamaha มีการออกแบบวงจรเจาะจงเรื่องคุณภาพเสียง ซึ่งวงจรนี้ถูกปั๊มลงในแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์และเดินลายทองแดงที่คัดเกรดวัสดุอย่างดี ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานวงจรโดยรวมดีกว่า  

MG06/MG06X ใช้ไฟแรงดัน 12 โวลต์

Phantom Power & PAD Switch

ปุ่มเดียวเอาอยู่ กรณีใช้งานกับไมค์ชนิดคอนเด็นเซอร์ เราจำเป็นต้องจ่ายแรงดันไฟฟ้าไปเลี้ยงตัวไมค์ บนตัว MG จะมีปุ่ม Phantom Power เพียงปุ่มเดียว นั่นหมายความว่า ไม่ว่าเราจะเชื่อมต่อไมค์กับแชนแนลใด หากปุ่มนี้ถูกกดแล้ว มันจะจ่ายให้แรงดันให้ไมค์ครบทุกตัว

ส่วนสวิตซ์ PAD จะมีอยู่ตามแชนแนลต่างๆ ตามที่ระบุไว้ ซึ่งจะมีผลกับสัญญาณ MIC/Line อินพุตเหล่านั้น เพื่อช่วยลดทอนสัญญาณที่ถูกส่งเข้ามา ในระหว่างโชว์รุนแรงเกินไป เช่น สัญญาณคลิปให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม เป็นการหลีกเลี่ยงการนำสัญญาณที่แย่ และนั่นมักจะส่งผลต่อการมิกซ์เสียงได้

MG06/MG06X มีทุกอย่างเหมือนกัน ยกเว้นภาคเอฟเฟ็กต์

1-knob Compressors

ลูกบิดเดียวเอาอยู่ มิกเซอร์ MG บางรุ่นจะให้คอมเพรสเซอร์แบบย่อมา คอมเพรสเซอร์มีความสำคัญต่อการมิกซ์เสียง ช่วยควบคุมโทนเสียงให้ชัดขึ้น ให้ระดับความดังสม่ำเสมอ อาจจำเป็นต่อกีตาร์ เบสที่ต้องการโทนเสียงแน่นๆ กลองสแนร์ที่แน่นขึ้น หรือเสียงร้องที่ชัดขึ้น

อย่างไรก็ดี ในบางสถานการณ์ ผู้ใช้อาจต้องการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว อาจไม่ต้องการอะไรที่ซับซ้อน ซึ่งปกติคอมเพรสเซอร์จะมีพารามิเตอร์อยู่หลายค่า  Yamaha จึงออกแบบลูกบิดนี้มาให้ใช้ง่ายที่สุด เพื่อลดความยุ่งยากในการใช้งาน เพียงผู้ใช้หมุนลูกบิด 1-knob Compressors ก็จะช่วยให้เราเข้าถึงการตั้งค่าพารามิเตอร์เพื่อแก้ปัญหาเสียงที่ต้องการได้ทันที

Yamaha MG10XU

EQ และ High-pass Filters

มิกเซอร์ MG จะมีลูกบิด EQ ในทุกแชนแนล เพื่อใช้ปรับโทนเสียงที่ต้องการ มันถูกออกแบบจากประสบการณ์ของ Yamaha โดยมีให้จำนวน 3 แบนด์ความถี่ พร้อมกับมีวงจรฟิลเตอร์ใช้กรองความถี่สูง ช่วยลดทอนความถี่ต่ำที่อาจเข้ามารบกวนในระบบได้ ตรงนี้ทำให้เราได้โทนเสียงที่สะอาดและนุ่มนวล

MG10XU มีช่องคอมโบสำหรับ MIC/LINE จำนวน 4 ช่อง

AUX / Effect Sends / Group

มิกเซอร์ MG บางรุ่นจะให้ AUX, FX และ Group เพื่อรองรับงาน PA ขนาดใหญ่และงานบันทึกเสียง สำหรับรุ่นที่ไม่มี Audio Interface เราสามารถนำสัญญาณจากมิกเซอร์ไปบันทึกเสียงภายนอกได้ ซึ่งจะได้โทนเสียงของไมค์ปรีและภาคเอฟเฟ็กต์จากมิกเซอร์โดยตรง

นอกจากนี้ในรุ่น MG06/06X และ MG10XU จะมีบัสสเตริโอชุดเดียว ส่วนรุ่นอื่นจะมีบัสและเอาต์พุต Group แบบสเตริโอ 2 ชุด และโมโน 4 ชุด ซึ่งสามารถจัดการสัญญาณแบบกลุ่มได้สะดวกและอิสระขึ้น พร้อมกันนี้แต่ละแชนแนลจะมีสวิตซ์ควบคุมการทำงานสัญญาณเสียงร่วมกับ Group อีกด้วย  

ตำแหน่งเชื่อมต่อพอร์ต USB 2.0 และ AC Adapter

input/output connectors

Neutrik™ ไม่ได้มีเฉพาะมิกเซอร์รุ่นใหญ่ๆ รุ่นเล็กๆ อย่าง MG06 หรือ MG06X ก็ให้ Neutrik™ มา แบบ XLR คอมโบ รองรับทั้งสัญญาณจาก Mic และ Line โดย MG แต่ละรุ่นจะให้ XLR แบบคอมโบในจำนวนที่แตกต่างกัน ซึ่ง Yamaha ได้ออกแบบตามความเหมาะสมของการใช้งาน

อย่างไรก็ดี ในรุ่น MG06 ให้มา 2 ช่อง ส่วนที่เหลือจะเป็น TRS ส่วน Output หลักจะให้เป็น XLR ตัวผู้และ TRS ตัวเมีย

รุ่น MG10XU จะให้ XLR คอมโบ จำนวน 4 ช่อง ที่เหลือเป็น TRS และเอาต์พุตหลักเป็นแบบเดียวกับ MG06/06X

รุ่น MG12XU จะให้ XLR คอมโบ จำนวน 4 ช่อง และ XLR ตัวเมีย 2 ช่อง ส่วนเอาต์พุตหลักจะเป็นแบบเดียวกับ MG06/06X และ MG10XU

มิกเซอร์ MG ทุกรุ่นจะมีช่องต่อกับหูฟังให้ เฉพาะ MG10XU, MG12XU มี Audio Interface ในตัวสามารถเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB เพื่อบันทึกเสียงได้

MG10XU มาพร้อมเอฟเฟ็กต์ SPX จำนวน 24 โปรแกรม

SPX Digital Effects

มิกเซอร์ MG มี DSP เอฟเฟ็กต์ในตัว โดยใส่เอ็นจิ้น SPX เอฟเฟ็กต์เข้ามาในตัวเครื่อง มีเพียงรุ่น MG06 เท่านั้นไม่มีเอฟเฟ็กต์ SPX สำหรับงานดนตรี หรือกระทั่งงานพูด บ่อยครั้งจำเป็นต้องใช้เอฟเฟ็กต์มาช่วย เพื่อช่วยให้โทนเสียงดีขึ้น และดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ทั้งรุ่นที่มีรหัสลงท้าย X และ XU จะมีเอฟเฟ็กต์ในตัว ซึ่งเอฟเฟ็กต์ชุดนี้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการมายาวนาน ผู้ใช้สามารถปรุงแต่งเสียง ผสมกับสัญญาณในแชนแนลเสียงที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว

รุ่น MG06X มีเอฟเฟ็กต์ SPX จำนวน 2 กลุ่ม โดยแยกเป็นกลุ่มเอฟเฟ็กต์ Reverb จำนวน 3 โปรแกรมพรีเซต และกลุ่ม Delay จำนวน 3 โปรแกรม รวมทั้งหมด 6 โปรแกรม

รุ่น MG10XU และ 12XU มีเอฟเฟ็กต์ 24 โปรแกรม มีหมวดเอฟเฟ็กต์ทั้ง Reverb, Delay, Modulation, Cuttoff, Drive และ Pitch ซึ่งเพียงพอกับงานอีเว้นต์ทั่วไป และประเภทงานแสดงดนตรีสด รายชื่อเอฟเฟ็กต์ทั้งหมดมีดังนี้

REV HALL 1VOCAL ECHO
REV HALL 2KARAOKE
REV ROOM 1PHASER
REV ROOM 2FLANGER
REV STAGE 1CHORUS 1
REV STAGE 2CHORUS 2
REV PLATESYMPHONIC
DRUM AMBTREMOLO
EARLY REFAUTO WAH
GATE REVRADIO VOICE
SINGLE DLYDISTORTION
DELAYPITCH CHANGE

USB Audio Interface 2-in/2-out

MG 10XU และ 12XU เป็นมิกเซอร์ที่มี Audio Interface ในตัว รองรับการบันทึกเสียงที่ความละเอียด 24-bit /192kHz ใช้งานกับซอฟต์แวร์ DAW โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0 สามารถเชื่อมต่อใช้งานทั้งคอมพิวเตอร์ PC/MAC และ iPhone, iPad 2 หรือรุ่นใหม่กว่า แต่ต้องมีสายแปลงหัวสัญญาณอุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ MG Rec & Play ใช้ควบคุมการบันทึกเสียงและเพลย์แบ็กเพลงที่ต้องการ ผ่าน iPhone, iPad ซึ่งเหมาะกับใช้ในห้องซ้อม สามารถใช้ได้ตั้งแต่รุ่น MG10XU ขึ้นไป

MG12XU ให้คอมเพรสเซอร์จำนวน 4 แชนแนล (1-4 Ch.)

แถมฟรีซอฟต์แวร์จาก Steinberg

เฉพาะ MG10XU ขึ้นไปจะแถมซอฟต์แวร์สำหรับบันทึกเสียงให้ ท่านสามารถเข้าไปดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของ Steinberg มาใช้งานได้ฟรี โดยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ซึ่งได้สิทธิ์ใช้ซอฟต์แวร์ 2 ตัวคือ

Cubase AI – เป็นซอฟต์แวร์ DAW รุ่นจิ๋ว สามารถบันทึกทั้ง Audio/MIDI ตั้งแต่งานระดับเดโม จนถึงโปรเจคสตูดิโอ ติดตั้งบน PC/MAC

Cubasis LE – เป็นซอฟต์แวร์ DAW ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับ iPad สามารถดาวน์โหลดผ่าน App Store ของ Apple มาใช้ฟรี ตัว App มีคุณสมบัติคล้าย Cubase

ด้านหลัง MG12X มีช่องต่อ USB 2.0 และไฟฟ้า AC

คุณสมบัติเฉพาะทางเทคนิค

MG12XU Mixing Console

มิกเซอร์ขนาด 12 แชนแนล เชื่อมต่อไมค์ได้ 6 ตัว หรือ Line Input ได้ 12 ช่อง (4 Mono + 4 Stereo) มี 2 Group + 1 Stereo Bus และ 2 Aux (รวม FX)

  • 12-Channel Mixing Console
  • Max. 6 Mic / 12 Line Inputs (4 mono + 4 stereo)
  • 2 GROUP Buses + 1 Stereo Bus
  • 2 AUX (incl. FX)
  • “D-PRE” mic preamps with an inverted Darlington circuit
  • 1-Knob compressors
  • High-grade effects: SPX with 24 programs
  • 24-bit / 192kHz 2in / 2out USB Audio functions
  • Works with the iPad (2 or later) through the Apple iPad Camera Connection Kit / Lightning to USB Camera Adapter
  • Includes Cubase AI DAW software download version
  • PAD switch on mono inputs
  • +48V phantom power
  • XLR balanced outputs
  • Internal universal power supply for world-wide use
  • Optional Rack Mount Kit RK-MG12 Available
  • Metal chassis
  • Dimensions(W×H×D): 308 mm x 118 mm x 422 mm (12.1″ x4.6″ x16.6″)
  • Net Weight: 4.2 kg (9.3 lbs.)
MG12XU มีเอฟเฟ็กต์ 24 โปรแกรมจำนวนเท่ากับ MG10XU

MG10XU Mixing Console

มิกเซอร์ 10 แชนแนล ต่อไมค์ได้ 4 ช่อง หรือ Line Inputs 10 (4 mono + 3 stereo) มี 1 Stereo Bus และ 1 AUX (รวม FX)

  • 10-Channel Mixing Console
  • Max. 4 Mic / 10 Line Inputs (4 mono + 3 stereo)
  • 1 Stereo Bus
  • 1 AUX (incl. FX)
  • “D-PRE” mic preamps with an inverted Darlington circuit
  • 1-Knob compressors
  • High-grade effects: SPX with 24 programs
  • 24-bit / 192kHz 2in / 2out USB Audio functions
  • Works with the iPad (2 or later) through the Apple iPad Camera Connection Kit / Lightning to USB Camera Adapter
  • Includes Cubase AI DAW software download version
  • PAD switch on mono inputs
  • +48V phantom power
  • XLR balanced outputs
  • Metal chassis
  • Dimensions(W×H×D): 244 mm x 71 mm x 294 mm (9.6″x 2.8″x 11.6″)
  • Net Weight: 2.1 kg (4.63 lbs.)
เฉพาะรุ่น MG12XU หรือสูงกว่าจะมีสไลด์เฟดเดอร์

MG06X Mixing Console

มิกเซอร์ 6 แชนแนล ต่อไมค์ได้ 2 ตัว หรือ 6 Line Inputs (2 mono + 2 stereo) และ 1 Stereo Bus มีเอฟเฟ็กต์ SPX

  • 6-Channel Mixing Console
  • Max. 2 Mic / 6 Line Inputs (2 mono + 2 stereo)
  • 1 Stereo Bus
  • “D-PRE” mic preamps with an inverted Darlington circuit
  • High-grade effects: SPX with 6 programs
  • XLR balanced outputs
  • PAD switch on mono inputs
  • +48V phantom power
  • Metal chassis
  • Dimensions(W×H×D): 149 mm x 62 mm x 202 mm (5.9″x 2.4″x 7.9″)
  • Net Weight: 0.9 kg (1.98 lbs.)

MG06 Mixing Console

มิกเซอร์ 6 แชนแนล ต่อไมค์ได้ 2 ตัว หรือ 6 Line Inputs (2 mono + 2 stereo) และ 1 Stereo Bus

  • 6-Channel Mixing Console
  • Max. 2 Mic / 6 Line Inputs (2 mono + 2 stereo)
  • 1 Stereo Bus
  • “D-PRE” mic preamps with an inverted Darlington circuit
  • XLR balanced outputs
  • PAD switch on mono inputs
  • +48V phantom power
  • Metal chassis
  • Dimensions(W×H×D): 149 mm x 62 mm x 202 mm (5.9″x 2.4″x 7.9″)
  • Net Weight: 0.9 kg (1.98 lbs.)
MG12XU รองรับแจ็ค TRS/TS รูปแบบต่างๆ

สรุป

มิกเซอร์ MG Series เป็นมิกเซอร์อะนาล็อก ซึ่งทาง Yamaha ได้ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดได้ครอบคลุมการใช้งานเกือบทุกประเภท ตั้งแต่งาน Bed Room งานบันทึกเสียง ห้องซ้อม งาน PA ที่เน้นเสียงพูดเป็นหลัก หรืองานเล่นดนตรีสดตามร้านอาหาร คาราโอเกะ หรือใช้เป็น Sub-Mix บนเวทีคอนเสิร์ตก็ได้

หากท่านต้องการมิกเซอร์ใช้งานในบ้าน ที่ทำงาน เพื่อซ้อมดนตรี หรือใช้เป็น Sub-Mix เปิดเมโทรนอมขณะเล่นดนตรีสด แต่ไม่ต้องการจำนวนช่องเชื่อมต่อมาก มีเพียงไมค์ 1 ตัวหรือกีตาร์/เบส บวกกับ Line 1 ช่อง ให้เลือกรุ่น MG06 กรณีต้องการเอฟเฟ็กต์ SPX ให้เพิ่มงบอีกเล็กน้อยจะได้รุ่น MG06X

หากท่านต้องการมิกเซอร์ ที่รองรับงานกว้างๆ เช่น ในร้านอาหาร ห้องซ้อมดนตรี รับงานอีเว้นต์ ที่รองรับไมค์อินพุตจำนวน 4 ช่อง หรือ Line Inputs ประมาณ 10 ช่อง มีเอฟเฟ็กต์จำนวน 24 โปรแกรมใช้กันอย่างจุใจ และ Audio Interface ในตัว ให้เลือก MG10XU

ถ้าต้องการมิกเซอร์ที่มีสไลด์เฟดเดอร์ และมีช่องไมค์อินพุตจำนวน 6 ช่อง หรือ Line Inputs ประมาณ 12 ช่อง ให้เลือกรุ่น MG12XU

ช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์

?Shopee: https://bit.ly/33Drl39
?Lazada: https://bit.ly/2GJZh5g
?JD central: https://bit.ly/3ntE6VU

สามารถมาทดลองสินค้าได้ที่
YDACC ชั้น 3 อาคารสยามกลการ ใกล้กับ bts สนามกีฬาแห่งชาติ
?https://goo.gl/maps/ca3fkb2ZmwUq4Rrg6

? ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่
Facebook : Yamaha Pro Audio Thailand
Line: @yamahaproaudioth
Website: th.yamaha.com
Instagram: yamahaproaudiothailand
Tel: 02-215-2626-39 (1401)

Read Previous

มือใหม่หัดใช้ Topp Pro DM-24.8 ดิจิตอลมิกเซอร์ EP.01

Read Next

Yamaha TF Series ดิจิตอลมิกเซอร์คอนโซล