Shure MXA910 เป็นไมโครโฟนที่ต้องยอมรับว่านี่คือเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งในบางรุ่นเป็นไมโครโฟนที่ใช้สำหรับงานติดตั้ง เช่น งาน AV Conference พวกห้องประชุม ห้องสัมมนา ห้องเรียน ซึ่งถูกออกแบบให้ติดตั้งไมโครโฟนบนเพดานเหนือศีรษะ มีลักษณะรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และมีลำโพงทรงกลมขนาดเล็กรายล้อมอยู่บนเพดาน
สำหรับไมโครโฟนรุ่นนี้เปิดตัวมาได้สักพักแล้ว ชื่อว่า MXA910 จัดอยู่ในกลุ่ม Microflex Advance ซึ่งชื่อใหม่ของไมโครโฟนรุ่นนี้คือ MXA910-IMX ไมโครโฟนรุ่นนี้เป็น Ceiling Array ถูกออกแบบมาเพื่อฝังบนฝ้าเพดาน ภายในมีการฝังไมโครโฟนอยู่นับร้อยอัน โดยเป็นเม็ดคอนเด็นเซอร์ซึ่งจะทำงานร่วมกัน เหมาะกับการใช้ในห้อง Boardroom ห้องสัมมนา และ ฯลฯ
MXA910 IntelliMix® เป็นไมโครโฟนที่สามารถนำไปติดตั้งในห้องเรียน ห้องประชุม ห้องสัมมนา
และห้องอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย
เป็นไมโครโฟนสำหรับงานติดตั้ง โดย MXA910 มาพร้อมกับเทคโนโลยี IntelliMix® ซึ่งจะช่วยให้เสียงในห้องต่างๆ มีความชัดเจน ด้วยกรรมวิธีโฟกัสเสียงอัจริยะถึง 8 จุด
การทำงานเบื้องต้นคือจะรับสัญญาณเสียงจากผู้พูดด้านล่าง โดยตำแหน่งติดตั้งจะอยู่บนเพดาน หรือฝังไว้ในฝ้าเพดานก็ได้ หรือจะห้อยลงมา เป็นขาเมาท์หย่อนที่ติดตั้งคล้ายๆ โปรเจคเตอร์ก็ได้ กรณีมีฝ้าเพดานขนาด 60x60cm สามารถถอดฝ้าออกหนึ่งแผ่น แล้วนำไมโครโฟนรุ่นนี้ไปติดตั้งแทนได้เลย เพราะมีน้ำหนักเบา
Shure MXA910 ทำงานอย่างไร
MXA910-IMX ตัวมันเองทำอะไรได้บ้าง มันเป็นไมโครโฟนที่ไม่ต้องใช้สายสัญญาณแอนาลอกไปเสียบ เพราะรับส่งสัญญาณผ่านระบบเน็ตเวิร์ก Dante ปกติหากเราใช้ไมโครโฟนแบบแอนาลอกทั่วไป ไมค์ที่เป็นก้าน ไมค์ฝังบนโต๊ะ เราจำเป็นต้องเดินสายสัญญาณ แต่กรณีเราใช้ไมค์ Ceiling Array ตัวนี้ เราไม่จำเป็นต้องเดินสายมากมาย เพราะใช้สาย LAN เพียงเส้นเดียว ซึ่งภายในสายจะสื่อสารทั้งข้อมูลภาคคอนโทรล ภาคจ่ายไฟ และสัญญาณเสียง
ฉะนั้น สัญญาณทุกอย่างวิ่งบนสายเส้นเดียว ทำให้การติดตั้งง่าย ภายในเหมือนมีคอมพิวเตอร์ฝังอยู่ ซึ่งประกอบด้วย DSP ปรับแต่งเสียง มีมิกเซอร์ฝังอยู่ในตัว สามารถปรับแต่งจุดรับเสียงในตำแหน่งต่างๆ ได้
แม้ผู้พูดย้ายตำแหน่งระบบของไมค์จะตามติดผู้พูดไปด้วย รวมทั้งยังมี EQ ฝังอยู่ด้านในครบถ้วน มี LED บอกสถานะการทำงาน ในการปรับแต่ง DSP เราไม่ต้องโหลดโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม เพราะสามารถควบคุมผ่านเว็บเบราเซอร์ได้ เช่น Chrome, Firefox, IE และอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
MXA910 IntelliMix® มี 3 สี คือสีขาว สีอะลูมิเนียมและสีดำ เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของห้องเหล่านั้น
เพียงเราเชื่อมต่อสัญญาณผ่านสาย LAN ด้วยสวิตซ์หรือเราท์เตอร์สักตัว โดยการเชื่อมต่อสัญญาณจากไมโครโฟนเข้าไปที่สวิตซ์ก่อน แล้วใช้ iPad เชื่อมต่อเข้าไปที่สวิตซ์นั้น จากนั้นกรอก IP Address เข้าไปที่เว็บเบราเซอร์ ก็จะเข้าสู่หน้าต่างควบคุมไมโครโฟนทันที
ในโปรแกรมนี้ทำอะไรได้บ้าง อย่างแรกสามารถคอนโทรล ทำ EQ ปรับ Automix และ Save เป็นพรีเซตได้ ยกตัวอย่าง ห้องประชุมของเรา ทุกวันนี้มักจะเป็นห้องประชุมเอนกประสงค์ บางโรงแรมจัดห้องประชุมในแต่ละวันไม่ซ้ำกันเลย วันนี้ทำโต๊ะเป็นแบบตัว U อีกวันทำเป็นเส้นตรงแถบเดียว อีกวันทำเป็นโต๊ะกลม อีกวันทำเป็นครึ่งวงกลม
กรณีเราใช้ไมค์สาย จะต้องเปลี่ยนตามรูปแบบโต๊ะทุกวัน ย้ายโต๊ะเมื่อไหร่ก็ต้องเปลี่ยนตาม หากไมค์ฝังอยู่บนโต๊ะจะต้องย้ายสาย แค่นั้นไม่พอยังต้องย้ายสายอะแด็ปเตอร์ สายคอนโทรลอีก กว่าจะเซตอัพไมค์เสร็จ ใช้เวลาพอสมควร แต่หากใช้ไมค์ตัวนี้ (MXA910-IMX) หลังจากเปลี่ยนรูปแบบโต๊ะ ก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องไปติดตั้งไมค์ใหม่
เมื่อตำแหน่งไมค์อยู่ที่เดิม การทำงานของมันจะเปลี่ยนจุดรับเสียงจากผู้พูดเท่านั้นเอง นั่นทำให้การเซตอัพง่ายขึ้น ตัวอย่าง กรณีเป็นโต๊ะวางเป็นรูปสี่เหลี่ยม
รับเสียงได้ 8 Lobe
การรับเสียงของไมค์ตัวนี้ จะมีลักษณะเป็น Lobe อันที่จริงไมโครโฟนจำนวนนับร้อยที่อยู่ภายในมันจะทำงานร่วมกัน จนกระทั่งจับเสียงได้ทั้งหมด 8 จุด
MXA910 IntelliMix® มีตำแหน่ง (Lobe) ในการรับเสียงมากถึง 8 จุด สามารถกำหนดให้แต่ละจุดค้นหาเสียงของผู้พูดได้โดยอัตโนมัติ
ดังนั้น ไมค์ MXA910-IMX จะใช้รับเสียงได้สูงสุด 8 Lobe โดยแต่ละ Lobe เราสามารถเซตตำแหน่งให้รับเสียงจากบริเวณใดก็ได้ที่อยู่ในรัศมีทำการ หรือจะเซตเป็นระบบ Auto ก็ได้ หรือจะปรับเป็น Manual ก็ได้ โดยการใช้เมาส์ลาก มันสามารถส่งสัญญาณทั้ง 8 Lobe เข้าไปในเน็ตเวิร์ก Dante ได้ เช่น เรามีมิกเซอร์ที่รองรับเน็ตเวิร์ก Dante เราสามารถส่งสัญญาณจากไมค์ไปเข้าตัวมิกเซอร์ได้เลย ผ่านสาย LAN เส้นเดียว
เราต้องการมิกซ์สัญญาณของไมค์ตัวไหน ต้องการเปิด/ปิดไมค์ตัวไหน เราสามารถควบคุมผ่านมิกเซอร์ตัวนั้นได้เลย อีกอย่างเมื่อตำแหน่งไมค์ถูกติดไว้บนเพดาน ทำให้บนโต๊ะไม่มีไมค์มาเกะกะ เวลานั่งก็ไม่ต้องกังวลตำแหน่งว่าจะตรงกับไมค์ มือจะขวางไมค์หรือไม่ ตัวไมค์มีให้เลือกหลายสี ส่วนตะแกรงทาสีใหม่ได้อีกด้วย มีเอฟเฟ็กต์ให้ เมื่อเปิดไมค์ขึ้นมา มันจะมีจำนวน 8 Lobe เพื่อให้คอนฟิกเป็นสี่เหลี่ยม เราจะปรับตำแหน่งเป็นครึ่งวงกลมหรือแบบอื่นๆ ก็ทำได้
MXA910 IntelliMix® สามารถติดตั้งบนฝ้าเพดานของห้องต่างๆ ได้หลายลักษณะ
ความสามารถของ Lobe ไม่ได้มีแค่การ Beam มาหาปากของผู้พูดเท่านั้น มันสามารถปรับความกว้างของมุมที่จะรับเสียงได้ด้วย โดยแนวแคบสุดคือ 30 องศา และกว้างสุด 55 องศา การปรับให้แคบมีข้อดีคือจะทำให้โฟกัสตำแหน่งการรับเสียงให้ดีขึ้น ซึ่งจะได้เสียงที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ข้อเสียคือเมื่อผู้พูดย้ายตำแหน่งการพูดออกไปเพียงเล็กน้อย เสียงมันจะบางไปเลย
แต่หากเราตั้งให้รับเสียงเป็น Wide มันจะรับเสียงได้กว้างขึ้น แต่ข้อเสียคือมันจะรับเสียงรอบตัวของผู้พูดเข้าไปด้วย ทำให้ความชัดเจนของเสียงลดลง ตรงนี้ต้องไปพิจารณาหน้างานตามความเหมาะสม กรณีเป็นห้องเงียบๆ ผู้พูดไม่ได้ย้ายตำแหน่งไปไหนก็จะได้เสียงที่ชัดเจน
Steering Coverage
สำหรับ Steering Coverage มันมีหน้าที่กวาด Beam รับเสียงในทิศทางต่างๆ ได้ กรณีกวาดเสียงไปในระยะไกล พื้นที่รับเสียงก็จะเบาบาง เหมือนสปอร์ทไลท์ ถ้าฉายไปไกลๆ วงมันจะกว้าง แต่ถ้าส่องระยะไกล้วงมันจะแคบลง ซึ่งมันจะโฟกัสเสียงได้ดี ทีนี้หากเราปรับเป็น Narrow ระยะการรับเสียงจะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร
MXA910 IntelliMix® มี Steering Coverage ใช้ทำหน้าที่กวาดหาเสียง ด้วยกรรมวิธี Beam รับเสียงในทิศทางต่างๆ
กรณีตั้งเป็น Wide จะได้ระยะประมาณ 1.9 เมตร กรณีนี้เป็นค่าที่ได้จากการติดตั้งไมค์สูงประมาณ 1.8 เมตร ส่วนกรณีที่ติดตั้งไมค์สูงกว่านี้ ระยะการครอบคลุมก็จะยิ่งกว้างมากขึ้น แต่ความชัดเจนของเสียงจะลดลง ดังนั้น ระยะที่แนะนำให้ติดบนฝ้าเพดานที่ความสูงประมาณ 2.4-2.9 เมตร หรือ 3 เมตรก็ยังพอใช้ได้
ในกรณีเป็นห้องประชุมที่มีผู้พูดเพียงคนเดียว อันที่จริงไมค์ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับงานประชุมเป็นหลัก กล่าวคือจะเป็นการพูดคุยกับอีกฟากหนึ่ง เป็นการคุยกับคนที่อยู่ต่างสาขา ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ผู้ฟังเสียงของเราอยู่อีกที่หนึ่ง นั่นคือการส่งสัญญาณเสียงไปหาผู้ฟังที่อยู่อีกที่หนึ่ง กรณีนี้เราใช้เพียง Lobe เดียวก็ได้ หรือพูด 2 คน ให้เปิด 2 Lobe หรือพูด 8 คนก็ให้เปิดทั้ง 8 Lobe