NPE PMD Series มาพร้อมโมดูล MP3/FM กำลังขับ 150 วัตต์ถึง 1000 วัตต์ รองรับลำโพงไฮไฟและแบบไลน์โวลต์ 70V/100V
PMD Series เป็นเครื่องขยายในระบบเสียงตามสาย จากอดีตถึงปัจจุบัน NPE คือผู้นำตลาดเครื่องขยายเสียงตามสาย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง มีการติดตั้งใช้งานแพร่หลายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับเครื่องขยายเสียงซีรี่ส์นี้ถูกออกแบบและผลิตขึ้นที่โรงงานนัฐพงษ์ฯ เพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการระบบเสียงตามสายที่มีคุณภาพ ในราคาประหยัด
เครื่องขยายเสียง NPE PMD Series จัดเป็นเพาเวอร์มิกเซอร์แบบโมโน มีการปรับปรุงพัฒนาต่อยอดมาจากเจเนอเรชั่นก่อนหน้า ตัวเลขสเป็คต่างๆ เชื่อถือได้ สำหรับเครื่องขยายเสียง PMD จะมีด้วยกัน 2 ขนาด คือขนาด 2U และ 3U เครื่องขยายเสียงแท่นขนาด 2U จะมีเพียงรุ่นเดียวคือ PMD-150MP3 ที่เหลือจะมีขนาด 3U ได้แก่รุ่น PMD-250MP3, PMD-350MP3, PMD-550MP3 และรุ่นใหญ่ PMD-1000MP3
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
สำรวจด้านหน้าเครื่อง
หากสำรวจหน้าเครื่องขยายเสียง NPE PMD Series จะพบส่วนที่เป็นแชนแนลอินพุต ซึ่งใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก เช่น ไมโครโฟน เครื่องเล่นต่างๆ พวก เทป ซีดี ดีวีดี
ถัดมาจะพบแชนแนลควบคุมความดังเบาโมดูล MP3 และลูกบิดปรับแต่งเอฟเฟ็กต์แอคโค่ ใช้สร้างเสียงสะท้อนให้น่าฟังยิ่งขึ้น
ส่วนถัดมาเป็นตัวโมดูล MP3 ใช้เปิดไฟล์ MP3 ด้านล่างจะมีชุดเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเครื่อง และถัดไปเป็นชุด Master Output ใช้ควบคุมสัญญาณที่ออกไปยังภายนอก สามารถปรับแต่งความทุ้มแหลมของเสียงได้
ฝั่งขวามือสุดของเครื่องจะมี LED VU แสดงระดับความแรงของสัญญาณขณะใช้งานเครื่องขยายเสียง ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมความดังไม่ให้ระดับสัญญาณเสียงแตกพร่าผิดเพี้ยนได้
ด้านหลังของเครื่อง
NPE สินค้าคุณภาพผลิตในไทย
จากการสำรวจด้านหลังเครื่องขยายเสียง PMD Series จะมีลักษณะคล้ายกัน คือมีจุดเชื่อมต่อกับลำโพงชนิดต่างๆ เช่น ลำโพงไลน์ 70 โวลต์, ไลน์ 100 โวลต์ รวมถึงลำโพงทั่วไปที่มีค่าอิมพีแดนซ์ 4 โอห์ม, 8 โอห์ม และ 16 โอห์ม
นอกจากนี้ยังมีจุดเชื่อมต่อกับสายอากาศวิทยุ FM ชนิดแจ็ค BNC 75 โอห์ม กรณีต่อเครื่องขยายเสียงกับแบตเตอรี่จะเป็นการต่อตรง ดังนั้น การใช้สวิตซ์เปิด/ปิดหน้าเครื่องจะไม่มีผล
ในกล่อง NPE PMD Series มีอะไรบ้าง
ภายในกล่องอุปกรณ์จะพบเครื่องขยายเสียง 1 ตัว พร้อมคู่มือการใช้งาน และทาง NPE ยังแถมรีโมทควบคุมโมดูล MP3 ให้หนึ่งตัว ในการใช้งานตัวรีโมท ผู้ใช้สามารถสั่งงานตัวโมดูลได้หลากหลายฟังก์ชัน นับแล้วมีประมาณ 14 ฟังก์ชัน (ศึกษาการใช้งานเพิ่มเติมได้จากคู่มือที่มากับเครื่อง)
อ่านการ์ดได้ไม่เกิน 32GB
NPE PMD Series รองรับ SD Card ขนาดความจุไม่เกิน 32 กิกะไบต์ หรือหากคำนวณความจุจะได้มากถึง 8,302 เพลงเลยทีเดียว (อ้างอิงจาก Kington) ในกรณีนำการ์ดที่มีความจุมากกว่า 32 กิกะไบต์มาใช้งาน โดยทั่วไปเครื่องจะมองไม่เห็นพื้นที่ส่วนที่เกิน 32 กิกะไบต์ หรือบางทีก็อ่านการ์ดไม่ได้
ปุ่มฟิลเตอร์มีไว้ทำไม?
ปกติลำโพงทั่วไปนั้นสามารถรับความถี่ได้กว้าง คือครอบคลุมทั้งเสียงทุ้ม และเสียงแหลม แต่ลำโพงประเภทฮอร์นจะไม่สามารถรับความถี่ต่ำได้ เพราะตัวลำโพงถูกจำกัดการทำงานไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ
เนื่องจากลำโพงฮอร์นนั้นถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ขับเสียงกลางและเสียงแหลมเท่านั้น หากป้อนเสียงทุ้มเข้าไปปริมาณมากๆ อาจทำให้ตัวฮอร์นเสียหายได้ ดังนั้น NPE จึงออกแบบปุ่มสวิตซ์ฟิลเตอร์ตัวนี้มา เพื่อตัดเฉพาะย่านเสียงทุ้ม (Low cut) ออกไป
อย่างไรก็ดี แม้ใช้งานฟิลเตอร์ตัวนี้ไปแล้วใช่ว่าเสียงทุ้มจะหายไป เพราะค่าความชัน -6 เดซิเบลนั้น ไม่ได้ทำให้ระดับความดัง (Amplitude; dB) แต่ละออคเตป (Octave) ของความถี่ที่ต่ำกว่า 180 เฮิร์ตซ์หายไปทั้งหมด
สำหรับสวิตซ์ฟิลเตอร์ในรุ่น PMD-250MP3, PMD-350MP3 และ PMD-550MP3 จะตัดความถี่ 180 เฮิรตซ์ ที่ -6 เดซิเบลต่อออคเตป (-6dB/Octave) ซึ่งมีเพียง PMD-1000MP3 จะตัดความถี่ 150Hz ที่ -6 เดซิเบลต่อออคเตป ดังนั้น PMD Series จึงสามารถใช้กับลำโพงฮอร์นได้หลากหลายรุ่น
ดิจิตอลแอคโค่ (Echo)
ในส่วนของเอฟเฟ็กต์แอคโค่ จะมีลูกบิดสำหรับปรับปริมาณแอคโค่ เพื่อให้ใช้งานร่วมกับไมโครโฟน ถัดไปเป็นปุ่ม Repeat และปุ่ม Time โดยค่า Echo delay time สามารถทำงานได้ในช่วง 150ms-450ms แปลว่าผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงแอคโค่ให้มากน้อยได้อย่างอิสระ
โมดูล MP3
สำหรับโมดูล MP3 สามารถเล่นไฟล์ MP3 จาก SD Card ได้ และยังสามารถรับคลื่นวิทยุ FM 87.5 เมกะเฮิรตซ์ จนถึง 108 เมกะเฮิรตซ์
ลักษณะการใช้ไฟฟ้า
ตัวเครื่องสามารถใช้งานกับไฟฟ้าตามครัวเรือน คือระดับแรงดัน 220 โวลต์ และยังสามารถใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แรงดัน 12 โวลต์ได้ พร้อมวงจรฟิวส์ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากแรงดันไฟเกิน หรือไฟกระชากได้
PMD-150MP3
PMD-150MP3 เป็นเพาเวอร์มิกเซอร์ขนาด 150 วัตต์ RMS มีช่องสำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนจำนวน 4 ช่อง แบบบาลานซ์อินพุต (Balanced Input) และหนึ่งช่องไลน์แบบบาลานซ์อินพุตเช่นกัน บวกกับอีกหนึ่งช่องไลน์ MP3 Player เป็นอันบาลานซ์อินพุต (Unbalanced Input)
บนตัวเครื่องขยายเสียงจะมีส่วนที่เป็นโมดูลสำหรับเล่น MP3 รวมถึงยังมีเอฟเฟ็กต์แอคโค่ให้ ตัว PMD-150MP3 ในอินพุตแต่ละช่องสามารถปรับโทนเสียงได้ 3 ช่วงความถี่ นั่นคือช่วงเสียงทุ้ม เสียงกลางและเสียงแหลม
ตัวเครื่องขยายเสียงสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงไฮไฟธรรมดาทั่วไป และลำโพงฮอร์น ซึ่งบนตัวเครื่องจะมีปุ่มสวิตซ์ฟิลเตอร์ให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานร่วมกับลำโพงแต่ละชนิดได้อย่างเหมาะสม
PMD-150MP3 เครื่องขนาด 2U เป็นเครื่องขยายเสียงตัวเล็กเหมาะสำหรับ ห้องอาหาร ร้านกาแฟ หรือระบบเสียงภายในอาคาร และนอกอาคาร รถแห่ รถเร่ขายสินค้า ที่ไม่ได้ใช้จำนวนลำโพงมากมายนัก
เมื่อพิจารณาขีดความสามารถของเครื่องขยายเสียงรุ่นนี้ โดยรวมแล้วต้องขับลำโพงไม่ควรเกิน 150 วัตต์ แต่หากต้องการทำงานดีๆ ควรใช้กับลำโพงไม่เกิน 100 วัตต์ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเฉพาะเครื่องขยายเสียงรุ่น PMD-150MP3 ไม่มีบลูทูธ (Bluetooth)
ข้อมูลทางเทคนิค PMD-150MP3
● ค่า Frequency Response
Mic Input เท่ากับ 55 Hz-20kHz
Amp Input เท่ากับ 20Hz-20kHz
● ปรับ EQ แต่ละย่าน
ย่านทุ้ม (Low) 100Hz
ย่านกลาง (Mid) 900Hz
ย่านแหลม (High) 10kHz
● ฟิลเตอร์ 180Hz ความชัน 6dB/Octave
● ต้องการพลังงานไฟฟ้า 19.5W-250W
● น้ำหนักเครื่อง 12.2kg.
● ใช้ไฟฟ้า 220VAC/50Hz, 12VDC
PMD-250MP3
สำหรับเครื่องขยายเสียงรุ่น PMD-250MP3 รุ่นนี้มีบลูทูธในตัว มีกำลังขับ 250 วัตต์ RMS สามารถใช้งานกับไฟฟ้าแรงดัน 220 โวลต์และไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือไฟกระแสตรง 12 โวลต์ได้ จึงสามารถติดตั้งในรถยนต์ที่ใช้เสียงประกาศแบบเคลื่อนที่ได้
ข้อมูลทางเทคนิค PMD-250MP3
● ค่า Frequency Response
Mic Input เท่ากับ 55 Hz-20kHz
Amp Input เท่ากับ 20Hz-20kHz
● ปรับ EQ
ย่านทุ้ม (Low) 300Hz
ย่านกลาง (Mid) 900Hz
ย่านแหลม (High) 3.5kHz
● ฟิลเตอร์ 180Hz ความชัน 6dB/Octave
● ต้องการพลังงานไฟฟ้า 22.5W-500W
● น้ำหนักเครื่อง 22.3kg.
● ใช้ไฟฟ้า 220VAC/50Hz, 12VDC
PMD-350MP3
เครื่องขยายเสียงรุ่น PMD-350MP3 ให้กำลังขับ 350 วัตต์ RMS ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับ 220 โวลต์ทั่วไป และไฟฟ้ากระแสตรงหรือจากแบตเตอรี่ 24 โวลต์ได้ สังเกตว่าความต้องการแรงดันไฟฟ้าจะมากกว่ารุ่น PMD-150MP3 และ PMD-250MP3 ซึ่งในสองรุ่นนี้ต้องการแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงเพียง 12 โวลต์เท่านั้น
ข้อมูลทางเทคนิค PMD-350MP3
● ค่า Frequency Response
Mic Input เท่ากับ 55 Hz-20kHz
Amp Input 20Hz-20kHz
● ปรับ EQ
ย่านทุ้ม (Low) 300Hz
ย่านกลาง (Mid) 900Hz
ย่านแหลม (High) 3.5kHz
● ฟิลเตอร์ 180Hz ความชัน 6dB/Octave
● ต้องการพลังงานไฟฟ้า 45W-560W
● น้ำหนักเครื่อง 23.2kg.
● ใช้ไฟฟ้า 220VAC/50Hz, 24VDC
PMD-550MP3
ตัวเครื่องขยายเสียงรุ่น PMD-550MP3 จะให้กำลังขับ 500 วัตต์ RMS ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับ 220 โวลต์ และไฟฟ้ากระแสตรงหรือจากแบตเตอรี่ 24 โวลต์ได้
ข้อมูลทางเทคนิค PMD-550MP3
● ค่า Frequency Response
Mic Input เท่ากับ 55 Hz-12kHz
Amp Input เท่ากับ 20Hz-12kHz
● ปรับ EQ
ย่านทุ้ม (Low) 300Hz
ย่านกลาง (Mid) 900Hz
ย่านแหลม (High) 3.5kHz
● ฟิลเตอร์ 180Hz ความชัน 6dB/Octave
● ต้องการพลังงานไฟฟ้า 54W-750W
● น้ำหนักเครื่อง 28.7kg.
● ใช้ไฟฟ้า 220VAC/50Hz, 24VDC
PMD-1000MP3
เครื่องขยายเสียงรุ่นนี้มีขนาด 1000 วัตต์ RMS ปัจจุบันถือเป็นรุ่นใหญ่หรือรุ่นเรือธงของซีรี่ส์นี้ หากสำรวจฟังก์ชันหรือคุณสมบัติโดยทั่วไป จะคล้ายกับรุ่นอื่นๆ ที่กล่าวมา ไล่จาก PMD-250MP3 ขึ้นมา มีเฉพาะรุ่น PMD-150MP3 เท่านั้นที่ต่างจากรุ่นอื่นๆ คือไม่มีบลูทูธนั่นเอง
สิ่งที่ต่างแบบเห็นได้ชัดคือ เรื่องของกำลังขับ แอมป์รุ่นนี้ขับได้ถึง 1000 วัตต์ ใช้ไฟบ้าน 220 โวลต์ ใช้ไฟแบตเตอรีหรือไฟกระแสตรงแรงดัน 24 โวลต์
สำหรับฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสัญญาณต่างๆ เหมือนกับรุ่นน้อง ไม่มีอะไรแตกต่างกัน
ข้อมูลทางเทคนิค PMD-1000MP3
● ค่า Frequency Response
Mic Input เท่ากับ 50 Hz-11kHz
Amp Input เท่ากับ 50Hz-11kHz
● ปรับ EQ
ย่านทุ้ม (Low) 300Hz
ย่านกลาง (Mid) 900Hz
ย่านแหลม (High) 3.5kHz
● ฟิลเตอร์ 150Hz ความชัน 6dB/Octave
● ต้องการพลังงานไฟฟ้า 51W-1680W
● น้ำหนักเครื่อง 33.72kg.
● ใช้ไฟฟ้า 220VAC/50Hz, 24VDC
เปรียบเทียบคุณสมบัติ NPE PMD Series
เครื่องขยายเสียงซีรี่ส์นี้หากนำมาเปรียบเทียบคุณสมบัติสำคัญรุ่นต่างๆ จะได้ดังนี้
เครื่องขยายรุ่น | กำลังขับสูงสุด | เชื่อมต่อบลูทูธ | แบตเตอรี่ DC |
PMD-150MP3 | 150 วัตต์ | ไม่มี | 12 โวลต์ |
PMD-250MP3 | 250 วัตต์ | มี | 12 โวลต์ |
PMD-350MP3 | 350 วัตต์ | มี | 24 โวลต์ |
PMD-550MP3 | 500 วัตต์ | มี | 24 โวลต์ |
PMD-1000MP3 | 1000 วัตต์ | มี | 24 โวลต์ |
เลือก NPE PMD Series รุ่นไหนดี
จากคุณสมบัติเครื่องขยายเสียงทุกรุ่น เครื่องขยายเสียง NPE PMD Series สามารถนำไปติดตั้งหรือประยุกต์ใช้งานได้กว้างมาก เช่น ใช้เป็นมิกเซอร์ขนาดเล็กได้ สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องขยายเสียงกำลังขับสูงเพื่อใช้กับลำโพง PA ก็ได้
อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องขยายเหมาะกับงานที่เน้นการพูด การประกาศ เปิดเพลงและงานที่มีการใช้ไมค์จำนวนไม่มาก เพื่อกระจายเสียงในบริเวณโรงเรียน วัด และหมู่บ้านหรือชุมชน
สำหรับเครื่องขยายเสียงทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาคือ PMD-250MP3, PMD-350MP3 และ PMD-550MP3 จะรับอินพุตไมโครโฟนชนิดบาลานซ์ได้จำนวน 4 ช่อง และช่องไลน์ได้จำนวน 2 ช่อง เป็นอันบาลานซ์อินพุต มีช่อง MP3 บลูทูธ มีช่องวิทยุ FM อีกหนึ่งช่อง
NPE PMD Series ทุกรุ่นมีพัดลมระบายความร้อน
ทุกรุ่นจะมีชุดควบคุมเอฟเฟ็กต์มาด้วย เป็นเอฟเฟ็กต์แอคโค่ แต่ในรุ่น PMD-150MP3 จะปรับแต่งได้จำกัด ส่วนรุ่นที่ใหญ่กว่าจะปรับแต่งได้มากกว่า สำหรับตัวโมดูล MP3 ก็มีให้เช่นกัน รวมถึงสามารถรับสัญญาณบลูทูธจากโทรศัพท์มือถือได้
ในส่วนชุดควบคุมโทนเสียง แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือช่วงเสียงทุ้ม เสียงกลางและเสียงแหลม พร้อมสวิตซ์ฟิลเตอร์เพื่อใช้กับลำโพงฮอร์นและลำโพงไฮไฟทั่วไปได้
คุณสมบัติพิเศษของ NPE PMD Series ทั้ง 5 รุ่น จะมีจุดเชื่อมต่อสัญญาณไปอุปกรณ์ภายนอกได้ เช่น MIX OUT, REC OUT, AMP IN และ DOUBLE OUT
REC OUT – ใช้ต่อกับเครื่องบันทึกเสียงภายนอก
MIX OUT – ใช้ต่อกับอุปกรณ์ประเภท EQ ที่ช่อง Input หรืออื่นๆ
AMP IN – ใช้ต่อกับอุปกรณ์ EQ ที่ช่อง Output หรือใช้งานเครื่องขยายเสียงภายใน
DOUBLE OUT – ใช้ต่อพ่วงสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียงกำลังสูงตัวอื่นๆ
สังเกตว่าในรุ่น PMD-350MP3 ขึ้นไป มีความต้องการแรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรีมากกว่า รุ่น PMD-150MP3 และ PMD-250MP3 ซึ่งในสองรุ่นนี้ต้องการแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่เพียง 12 โวลต์เท่านั้น ส่วนรุ่นที่สูงกว่าต้องการแรงดันไฟ 24 โวลต์
การออกแบบระบบเสียง
ในการพิจารณาเลือกเครื่องขยายเสียง NPE PMD Series แต่ละรุ่นไปใช้งานนั้น สามารถพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น พื้นที่ใช้งาน จำนวนลำโพงที่ต้องการ ประเภทของลำโพงที่จะใช้ เช่น ลำโพงไฮไฟทั่วไป หรือลำโพงฮอร์น ลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ 4-16 โอห์ม หรือลำโพงไลน์โวลต์
อย่างไรก็ดี เราไม่แนะนำให้ใช้ลำโพงประเภทไลน์โวลต์กับประเภทอิมพีแดนซ์ในไลน์เดียวกัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่อตัวลำโพงและเครื่องขยายเสียงได้ ฉะนั้น การติดตั้งไม่ว่าจะเป็นระบบไลน์โวลต์หรืออิมพีแดนซ์ ควรพิจารณาด้านหลังลำโพงให้รอบคอบ ว่ามีการเชื่อมต่อปรับแต่งตามชนิดลำโพงได้ถูกต้องหรือไม่
คู่มือภาษาไทยจะมี 2 ชุด ประกอบด้วยคู่มือแนะนำการใช้งานเครื่องขยายเสียง และการใช้งานโมดูล MP3/FM/Bluetooth
ในระบบไลน์โวลต์จะมีอิมพีแดนซ์ของระบบลำโพงอยู่แล้ว แต่อิมพีแดนซ์จะมีค่าสูงมากเมื่อเทียบกับลำโพงธรรมดา
เมื่อเรารวมผลกำลังวัตต์ของลำโพงได้แล้ว ค่อยมาเลือกเครื่องขยายเสียงว่าจะใช้กี่วัตต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายช่างเทคนิคแต่ละคน บางท่านจะเน้นออกแบบให้เสียงกระจายออกไปเท่าๆ กัน เช่น การเดินสายสัญญาณลำโพงอาจไม่ได้เดินเพียงเส้นเดียว
นอกจากนี้ ยังต้องคำนวณเรื่องของค่าอิมพีแดนซ์ จุดเริ่มต้นใช้ลำโพงอิมพีแดนซ์เท่าไหร่ โดยหลักการลำโพงที่อยู่ใกล้ตำแหน่งเครื่องขยายเสียงจะดังมากสุด ผู้ออกแบบบางท่านจึงเลือกใช้ลำโพงที่มีค่าอิมพีแดนซ์มากสุด คือกำลังวัตต์น้อย หมายความว่า ถ้าอิมพีแดนซ์มากวัตต์จะน้อย ตรงกันข้ามถ้าอิมพีแดนซ์น้อยวัตต์จะสูง
ในคู่มือจะอธิบายการใช้งานเครื่องขยายเสียงอย่างละเอียด อ่านเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง
โดยตำแหน่งลำโพงที่อยู่ใกล้เครื่องขยายเสียงอาจปรับเป็น 70 โวลต์ หรือ 100 โวลต์ และเลือกปรับโวลต์ต่ำๆ เพื่อให้กินกำลังขับน้อยลง บางทีอาจปรับไปที่ 100 โวลต์ แต่จัดกำลังวัตต์ให้ต่ำลง เพื่อให้กำลังขับเหลือเพียงพอจะขับลำโพง ตำแหน่งปลายทาง นั่นคือตัวลำโพงที่อยู่ไกลสุดได้
หากลำโพงที่อยู่ในตำแหน่งใกล้เครื่องขยายเสียงกินกำลังขับไปมากแล้ว ผลลัพธ์คือลำโพงที่อยู่ตำแหน่งปลายทางจะดังเบา หรือไม่ดังเลย
ข้อควรพิจารณาอีกอย่างคือ ขนาดของสายลำโพงก็มีผลต่อเสียง เช่น หากเลือกใช้ขนาดเบอร์ 2.5 sq.mm. จะช่วยให้ไม่ต้องตามแก้ไขงานภายหลัง หลักการคือเลือกใช้สายเบอร์ใหญ่เพื่อให้สัญญาณเสียงเดินทางได้เต็มที่ และสามารถเดินสายไปในระยะไกลๆ ได้
กรณีใช้เครื่องขยายเสียงกำลังขับสูงๆ แต่เลือกใช้สายเส้นเล็กๆ กำลังขับของเครื่องขยายเสียงจะออกมาไม่เต็มที่ ผลคือจะได้ยินเสียงเบา
คู่มือแสดงภาพตัวอย่างระบบเสียงตามสาย โดยการเชื่อมต่อเครื่องขยายเสียงร่วมกับอุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ
สรุป
NPE PMD Series ถือเป็นเครื่องขยายเสียงตามสาย คุณภาพดี ราคาประหยัดคุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานกับลำโพงไฮไฟ และลำโพงฮอร์น สามารถติดตั้งในชุมชน โรงเรียน ศาสนสถาน อพาร์ทเม้นต์ โรงงาน และพื้นที่หน่วยงานรัฐและเอกชน
สำหรับเอกลักษณ์เสียงของ PMD Series ทั้ง 5 รุ่นจะให้โทนเสียงใส คมชัด ฟังสบาย เมื่อเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว โดยรวมถือว่าดีมาก
PMD Series แยกเป็นขนาด 2U และ 3U โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 150 วัตต์ จนถึง 1000 วัตต์ RMS กำลังขับยิ่งเยอะ ก็ยิ่งรองรับจำนวนลำโพงได้มาก สามารถกระจายเสียงในพื้นที่วงกว้างได้ดี และเครื่องขยายเสียงทุกรุ่นมีโมดูล MP3 รับคลื่นวิทยุ FM ได้ พร้อมรีโมทควบคุม และยังเชื่อมต่อกับบลูทูธได้ ยกเว้นรุ่น PMD-150MP3 เท่านั้น
สนใจสินค้าสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน หรือติดต่อ NPE ซึ่งเป็นผู้ผลิตโดยตรงก็ได้ โดยมีรายละเอียดอยู่ด้านล่าง
บทความที่เกี่ยวข้อง :
NPE C Series เพาเวอร์แอมป์ขุมพลัง 5000W
KSA Series เครื่องขยายเสียงคาราโอเกะจาก NPE
สามารถสอบถาม ติดตามข่าวสาร และข้อมูลได้ที่ :
✅ สนใจสั่งซื้อสินค้า ผ่านเว็ปไซต์
www.mynpe.com/
✅ Line@ : http://bit.ly/LineMyNPEThailand
✅ Facebook : http://m.me/mynpethailand
✅ Twitter : twitter.com/mynpethailand
✅ Instagram : instagram.com/mynpethailand
✅ Youtube : www.youtube.com/user/mynpe
☎️ Tel : 02 225 0094 (Banmoh Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-banmoh
☎️ Tel : 02 992 7379 (Zeer Rangsit Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-zeer
☎️ Tel : 02 889 5498 (Salaya Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-salaya