NPE LDM Series เครื่องขยายเสียงเอนกประสงค์ มีให้เลือก 3 รุ่น กำลังขับ 550W ถึง 1000W เชื่อมต่อไมค์ได้ 4 ช่อง Aux 2 ช่อง ใช้กับแบตเตอรี่ 24V ได้
LDM Series เป็นเพาเวอร์มิกเซอร์อีกหนึ่งซีรี่ส์ ที่ถือว่าเป็นสินค้ายอดนิยมของ NPE ออกแบบและผลิตในไทยโดยโรงงาน NPE ครั้งนี้จะแนะนำสินค้า 3 รุ่น คือ LDM-550 กำลังขับ 550W, LDM-800 กำลังขับ 800W และ LDM-1000 กำลังขับ 1000W ภาพรวมของฟังก์ชันการใช้งานแอมป์ทั้ง 3 รุ่นนี้เหมือนกันหมด จะแตกต่างกันเพียงด้านกำลังขับเท่านั้น
อันที่จริง LDM Series มีอีกรุ่นคือ LDM-400 แต่ทางโรงงานเลิกผลิตไป แล้ว ฉะนั้นในตลาดจึงเหลือเพียง 3 รุ่น สำหรับแอมป์ซีรี่ส์นี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้งานประกาศที่หลากหลาย อาทิ ในห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา หน่วยงานราชการ บริษัท โรงงาน และอื่นๆ
จุดเด่นสินค้าของ NPE หลายคนทราบดีว่า เป็นเครื่องขยายเสียงที่ใช้งานง่าย มีคู่มือสินค้า อุปกรณ์ทนทาน เสียงดังชัดเจน และมีราคาย่อมเยา
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
คุณสมบัติเด่น NPE LDM Series
>มีให้เลือกตั้งแต่ 550W-1000W
>Mic 4 ช่อง ขั้วต่อแบบ TS Jack
>Aux 2 ช่อง ขั้วต่อแบบ RCA Jack
>มีชุดปรับ Master และไฟ VU
>มีสวิตซ์กรองความถี่ต่ำสำหรับลำโพงฮอร์น
>มีช่องต่อเอฟเฟ็กต์ภายนอก
>รองรับลำโพง 4, 8, 16 โอห์ม
>รองรับลำโพงไลน์แมทชิ่ง 70V/100V
>ใช้กับไฟฟ้า 220VAC และ 24VDC
ด้านหน้าเครื่อง
LDM Series ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น LDM-550, LDM-800 และ LDM-1000 จะมีอินพุตไมค์จำนวน 4 ช่อง (แชนเนล 1-4) ขั้วต่อจะเป็นแจ็คแบบ TS พร้อมลูกบิดปรับความดัง บวกกับชุด EQ แบบพาราเมตริกจำนวน 3 แบนด์ความถี่ โดยเป็น High-Mid-Low
>Low จะมีผลกับความถี่ 80Hz
>Mid จะมีผลกับความถี่ 2.5kHz
>High จะมีผลกับความถี่ 10kHz
ค่า Gain ของ EQ เท่ากับ +/-10dB
สำหรับค่าอิมพีแดนซ์ของอินพุตไมค์จะเท่ากับ 2kOhms ส่วน Aux Input จะเท่ากับ 12kOhms Return Input จะเท่ากับ 33kOhms Amp Input จะเท่ากับ 30kOhms ในส่วนการตอบสนองอินพุตไมค์และ Aux เท่ากับ 30Hz-10kHz ส่วน Amp Input จะเท่ากับ 20Hz-10kHz
เมื่อสำรวจด้านหน้าเครื่อง นอกจากอินพุตไมค์แล้วยังมี Aux Input อีก 2 ชุด (แชนเนล 5-6) เป็นขั้วต่อแบบ RCA (ขาว/แดง) สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเล่นประเภท Aux, Tape, CD/DVD ซึ่งจะมีโวลุ่มควบคุมความดังเบา ชุดปรับแต่งความถี่ EQ แบบพาราเมตริก จำนวน 3 แบนด์ แยกกันอิสระ
จะเห็นว่าฝั่งอินพุตของเครื่องขยายเสียงได้แบ่งเป็นชุดของไมค์ และ Line แยกกัน หากนับรวมกันจะได้ 6 อินพุต นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถปรับเสียงทุ้มแหลมโดยรวมได้อีก โดยแยกเป็น Low-Mid-High
ด้านหน้าจะพบ LED สำหรับแสดงผลสถานะการทำงานของเครื่อง มีโวลุ่มมาสเตอร์ มีสวิตซ์เลือกฟิลเตอร์สัญญาณเสียงให้เหมาะกับชนิดลำโพงที่นำมาใช้งาน โดยใช้ไขควงขนาดเล็กจิ้มลงไป หากใช้นิ้วกดอาจไม่สะดวก
การต่อลำโพงใช้งานนั้น บางครั้งเราอาจต่อกับลำโพงฮอร์นหรือลำโพงแบบตู้ สำหรับในกรณีต่อแบบฮอร์น จะต้องกดสวิตซ์นี้ลงไป เพื่อให้เครื่องทำการกรองความถี่ต่ำออกไป เนื่องจากฮอร์นหลายรุ่นไม่ตอบสนองความถี่ต่ำ หากปล่อยความถี่ต่ำออกไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ได้
กรณีต่อลำโพงแบบตู้ ไม่จำเป็นต้องกดสวิตซ์ ตัวเครื่องจะทำงานในโหมด Hi-Fi คือตอบสนองทุกย่านความถี่นั่นเอง นอกจากนี้ ด้านหน้าเครื่องยังมี TRS แจ็ค มีไว้สำหรับเชื่อมต่อกับเอฟเฟ็กต์นอก เช่น EQ, Compressor, Echo/Reverb
ถัดมาเป็นฟังก์ชันชุดเชื่อมต่อกับคอุปกรณ์ภายนอกได้แก่ช่อง Send Out, Return Pre-Out, Amp Input และ Double Out
Send Out ใช้ส่งสัญญาณไปยังเอฟเฟ็กต์ภายนอก, Return ใช้รับสัญญาณจากเอฟเฟ็กต์ภายนอก, Pre-Out ใช้ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ EQ ภายนอก, Amp Input ใช้รับสัญญาณจากอุปกรณ์ EQ ภายนอก และ Double Out สำหรับส่งสัญญาณไปยังเครื่องอื่น ซึ่งจำเป็นในกรณีต้องการต่องพ่วงสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียงตัวอื่น เช่น เพาเวอร์แอมป์
ด้านหลังเครื่อง
LDM Series ทั้ง 3 รุ่น สามารถเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่แรงดัน 24 โวลต์ได้ เท่ากับว่าแอมป์ซีรี่ส์นี้รองรับไฟฟ้าทั้งกระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) จุดเชื่อมต่อกับลำโพงจะเป็นเทอร์มินัล ซึ่งรองรับทั้งลำโพงแบบอิมพีแดนซ์ 4 Ohms, 8 Ohms และ 16 Ohms ตลอดจนลำโพงชนิดไลน์แมทชิ่ง 70V/100V LDM Series เป็นเครื่องขยายเสียงที่ออกแบบภาคขยายโดยใช้ชิ้นส่วนแบบไบโพลาร์ เป็นทรานซิสเตอร์ที่ทนต่อความร้อน คัดสรรวัสดุเกรดดี
ที่ช่อง AC จะมีกระบอกฟิวส์สำหรับป้องกันกระแสเกิน มาพร้อมสายไฟที่ใช้ต่อกับเต้าเสียบ ส่วนช่อง DC จะพบช่องฟิวส์ที่เครื่องใช้ป้องกันแรงดันหรือกระแสเกิน โดยจะมีขั้วต่อแบตเตอรี่ สีแดงคือขั้วบวก สีดำคือขั้วลบ ถัดมาด้านข้างตัวเครื่องจะพบพัดลมระบายความร้อน LDM-800, 1000 จะมีพัด 2 ตัว ส่วน LDM-550 มีพัดลม 1 ตัวซึ่งเพียงพอสำหรับเครื่องกำลังขับแค่นี้ สิ่งที่ควรคำนึงคือต้องติดตั้งเครื่องในจุดที่อากาศถ่ายเทสะดวก ตำแหน่งติดตั้งเครื่องไม่ควรมีฝุ่นมาก และมีอุณหภูมิสูง
ด้านหลังเครื่อง NPE LDM Series ทั้ง 3 รุ่น มีลักษณะเดียวกัน
สรุป
NPE LDM Series เป็นเพาเวอร์มิกเซอร์รุ่นยอดนิยมของ NPE ปัจจุบันมีให้เลือก 3 รุ่น คือ LDM-550 ให้กำลังขับ 550W รุ่น LDM-800 ให้กำลังขับ 800W และรุ่นท็อปของซีรี่ส์ LDM-1000 ให้กำลังขับ 1000W ต่อกับไมค์ได้ 4 ช่อง และช่อง Line อีก 2 ช่อง
ทั้ง 3 รุ่นมีคุณสมบัติโดยรวมเหมือนกันหมด ต่างกันแค่กำลังขับเท่านั้น ยังไงให้เลือกตามความเหมาะสมกับสถานที่ใช้งาน และตามงบประมาณที่มี
หากใครกำลังต้องการเครื่องขยายเสียงตามสาย ที่เป็นเพาเวอร์มิกเซอร์ กำลังขับระดับกลางๆ เพื่อนำไปใช้ในองค์กรของท่าน ไม่ว่าจะเป็น ในชุมชนหมู่บ้าน โรงเรียน ศาสนสถาน บริษัทหรือในโรงงาน ขอแนะนำเครื่องขยายเสียงซีรี่ส์นี้
บทความที่เกี่ยวข้อง :
NPE PMD Series เครื่องขยายเสียงตามสาย 1000 วัตต์
NPE LTA Series เพาเวอร์มิกเซอร์ 2000W
สามารถสอบถาม ติดตามข่าวสาร และข้อมูลได้ที่ :
✅ สนใจสั่งซื้อสินค้า ผ่านเว็ปไซต์
www.mynpe.com | LDM-550 | LDM-800 | LDM-1000 |
✅ Line@ : http://bit.ly/LineMyNPEThailand
✅ Facebook : http://m.me/mynpethailand
✅ Twitter : twitter.com/mynpethailand
✅ Instagram : instagram.com/mynpethailand
✅ Youtube : www.youtube.com/user/mynpe
☎️ Tel : 02 225 0094 (Banmoh Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-banmoh
☎️ Tel : 02 992 7379 (Zeer Rangsit Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-zeer
☎️ Tel : 02 889 5498 (Salaya Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-salaya