NPE EN-234 อนาล็อกครอสโอเวอร์ มาพร้อมฟิลเตอร์ชนิด Linkwitz–Riley ความชัน 24dB/Octave ตัดได้ 3 จุด เล่นได้ 2 ถึง 4 ทาง
EN-234 เป็นอิเล็กทรอนิกส์ครอสโอเวอร์ จัดประเภทเป็นอุปกรณ์แอคตีฟครอสโอเวอร์ หน้าที่หลักของมันคือใช้แยกความถี่เสียง ใช้กำหนดย่านความถี่เสียงให้กับลำโพง เพื่อให้ลำโพงเหล่านั้นสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ลำโพงจะทำงานได้ นับเป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ของระบบเสียงเลยทีเดียว
ปัจจุบัน ครอสโอเวอร์ เราแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือแบบพาสซีฟและแบบแอคตีฟ กรณีเป็นชนิดพาสซีฟจะเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มักติดตั้งในตู้ลำโพง ไม่มีการจ่ายไฟเลี้ยง แต่จะอาศัยเฉพาะสัญญาณจากเครื่องขยายเสียง ซึ่งตัวพาสซีฟครอสโอเวอร์จะทำหน้าที่แบ่งแยกความถี่ให้กับดอกลำโพง
ส่วน NPE EN-234 เป็นแอคตีฟครอสโอเวอร์ การทำงานจะมีความซับซ้อนกว่า สำหรับครอสโอเวอร์รุ่นนี้รองรับการทำงานได้แบบ 2 ทาง 3 ทางแบบสเตริโอและ 4 ทางแบบโมโน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
จุดเด่น NPE EN-234
มีการออกแบบลักษณะจุดตัดครอสโอเวอร์ความชันอยู่ที่ระดับ 24dB/Octave ฟิลเตอร์ชนิด Linkwitz–Riley จุดเด่นของฟิลเตอร์ชนิดคือให้เสียงที่นุ่มนวล ไม่กระแทกเกินไป หลายท่านที่เคยเล่นคอนโทรลเลอร์แบบดิจิตอลจะพบว่าฟิลเตอร์ตัวนี้จะมีความลาดชันโค้ง ในขณะฟิลเตอร์บางชนิดอาจมีความลาดชันหักมุม เช่น Butterworth จะให้เสียงที่กระแทกกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเลือกฟิลเตอร์แบบใดให้เหมาะกับหน้างานของตน
EN-234 จะใช้ความชัน 24dB/Octave ทั้งแบบ 2 จุดและแบบ 3 จุด โดยทุกกรณีจะแยกเสียง Low-Mid-High ออกจากกัน ส่วนจะเลือกแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับว่า ระบบเสียงของผู้ใช้เป็นลักษณะใด ในการเลือกจุดตัดนั้น เราต้องพิจารณาจากการตอบสนองย่านความถี่ของทั้งตัวดอกลำโพงและตู้ลำโพงด้วย ตลอดจนถึงลักษณะแนวเพลงที่นำมาเปิดเล่นอีกด้วย
ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่องานนั้นๆ เช่น การติดตั้งเครื่องเสียงสำหรับงานราตรีรื่นเริง งานประกาศในชุมชน เป็นต้น ระบบเสียงอาจมีหลากหลายรูปแบบ
บางคนอาจต้องการเบสนุ่มๆ ย่านซับอาจไม่ต้องตัดสูง คืออยู่ในช่วง 40Hz-80Hz แต่กรณีต้องการเสียงกระแทก หัวกระเดื่อง หัวเบส อาจต้องลากตั้งแต่ 20Hz-120Hz สมมติ ย่านซับทำงานเริ่มที่ 20Hz-80Hz ส่วนย่านเสียงกลางนั้นจะเริ่มที่ 80Hz ถึงจุดตัดระหว่างเสียงแหลมหรือความถี่เสียงสูง
ในกรณีเราเลือกตัดย่านความถี่กลางสูงเกินไป ก็อาจจะเกิดความผิดเพี้ยนของเสียง ปัญหาที่จะพบคือดอกลำโพงอาจตอบสนองความถี่ได้ไม่ถึง หรือตามสเป็คอาจบอกว่าทำงานได้ แต่เวลาทำงานจริงๆ อาจจะทำงานไม่ถึงก็ได้ ดังนั้น หากจุดตัดสูงไป ก็จะทำให้เสียงผิดเพี้ยน หากตัดต่ำเกินไป ซึ่งเสียงแหลมที่พ่วงอยู่จะลงมากินลำโพงเสียงกลาง ลำโพงก็จะทำงานหนัก สิ่งสำคัญของจุดตัดต้องพิจารณาให้ดี
สำรวจ EN-234
จุดเชื่อมต่ออินพุตเป็นชนิดบาลานซ์ XLR ตัวเมียติดแท่น ส่วนฝั่งเอาต์พุตเป็นบาลานซ์ XLR ตัวผู้ติดแท่น จุดเด่นของ EN-234 สามารถเลือกเป็นโมโน 4 ทางได้ หากเลือกแบบนี้ จะมีจุดตัด 3 จุด โดยแบ่งจุดตัดแรกเป็นย่าน Low (Sub) จุดตัดที่ 2 เป็น Mid-Low/Mid-High จุดตัดที่ 3 เป็น Mid-High/High
ยิ่งมีจุดตัดเยอะจะช่วยให้กำหนดย่านความถี่ ความดังได้ละเอียดขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือจะทำให้มีการทำงานที่ซับซ้อนขึ้น ข้อดีคือจะช่วยให้ดอกลำโพงทำงานไม่หนัก ได้ความละเอียด
ต้องไม่ลืมว่า ยิ่งตัดหลายทาง จำเป็นต้องใช้ทักษะที่เชี่ยวชาญมากขึ้น การจะตัดครอสฯ ได้ดีนั้น ผู้ใช้งานจะต้องฟังเพลงเก่ง ต้องมีเพลงประจำตัวที่ใช้เป็น Reference อย่างน้อยหนึ่งเพลง
ทั้งนี้ เพื่อใช้อ้างอิงในการทำงาน เมื่อมีการตัดความถี่หรือจูนระบบแล้ว เสียงจะต้องใกล้เคียงกับลำโพงใบเดียว หรือลำโพงแบบฟูลเร้นจ์ ไม่ว่าเราจะทำ 2 ทาง 4 ทาง เสียงที่ออกมาทั้งระบบจะต้องเหมือนตู้ใบเดียว เราจะเลือกจุดตัดแบบไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับทักษะแต่ละคน
หน้างานเราจะมีลำโพงกี่ใบก็ตาม เราต้องโฟกัสว่า เสียงที่ออกมาต้องเหมือนออกจากลำโพงใบเดียว
ควรตัดความถี่กี่ทาง
ในการเลือกตัดครอสโอเวอร์กี่ทาง มันจะมีสวิตซ์ให้เลือกซึ่งอยู่ด้านหลังอุปกรณ์ เราจะเลือกเป็น 2 ทาง 3 ทางหรือ 4 ทาง หากเลือกเป็น 2 ทาง 3 ทาง หรือ 4 ทาง เราจะต้องต่ออินพุตและเอาต์พุตแบบไหน รวมถึงเอาต์พุตที่เราจะดึงมาใช้งานมีช่องไหนบ้าง
สิ่งสำคัญต้องพิจารณาหลังเครื่องให้ดี ต้องละเอียดรอบคอบกันพอสมควร หากเราไม่รอบคอบสิ่งที่ตามมาคือความผิดพลาด เช่น อาจป้อนเสียงกลางไปเข้าลำโพงเสียงแหลม หรือป้อนเสียงซับไปเข้าลำโพงเสียงแหลม เมื่อเปิดใช้งานลำโพงอาจเสียหายได้
ครั้งแรกที่เปิดเครื่องเพื่อทดสอบระบบ เสียงแรกที่เราต้องเปิดเลยคือเสียงแหลม เพราะเสียงแหลมจะสร้างความเสียหายต่อระบบน้อยกว่า เช่น ถ้าเราต่อสัญญาณเสียงแหลมไปเข้าตู้ซับ กรณีนี้ยังไงดอกซับจะไม่เกิดความเสียหาย เพราะย่านความถี่ที่ถูกปล่อยไปนั้น สูงกว่าย่านดอกลำโพงจะตอบสนองได้
ในกรณีเปิดความถี่ต่ำก่อน หากต่อสัญญาณดังกล่าวไปเข้าดอกลำโพงเสียงแหลม ผลลัพธ์คือเสียงของลำโพงเสียงแหลมจะขาด เพราะระดับสัญญาณของย่านซับจะมีกำลังกว่าย่านเสียงแหลม ดังนั้น กรณีนี้โอกาสที่ดอกลำโพงเสียงแหลมจะเสียหายมีสูง
ลูกเล่นสำคัญ
EN-234 สามารถตัดย่านความถี่ต่ำทิ้ง กล่าวคือสามารถกรองความถี่ย่าน 20Hz-40Hz ทิ้งได้ ข้อดีคือเมื่อเราติดตั้งระบบเสียงในสถานที่ใดๆ เมื่อเปิดย่านความถี่ต่ำๆ แล้ว เกิดอาการเสียงเบสบวม หากตัดย่านความถี่ต่ำๆ ออกไป จะช่วยลดเสียงเหล่านั้น ทำให้ได้เสียงที่ชัดขึ้น เคลียร์ขึ้น ช่วยให้ฟังรู้เรื่อง
ถัดมาจะมี Invert สวิตซ์ จะมีทุกเอาต์พุต คือแยกเป็น High-Mid-Low ประโยชน์ของสวิตซ์ตัวนี้มีไว้เพื่อใช้กลับเฟสของสัญญาณ กรณีเราติดตั้งตู้ลำโพงแล้วเฟสทับซ้อนกัน เมื่อกดสวิตซ์ตัวนี้จะช่วยให้ได้เสียงที่ดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการวางตู้ลำโพงด้วย
บางครั้งผู้ใช้อาจจะติดตั้งระบบตู้ซับเป็นแบบ Cardioid sub ซึ่งนิยมใช้เทคนิคกลับเฟสช่วย เพื่อให้เกิดการหักล้างบางความถี่หรือหักล้างทุกความถี่
กราฟฟิลเตอร์ Linkwitz-Riley เทียบกับ Butterworth และลักษณะความชัน Linkwitz-Riley Crossovers
คุณสมบัติเฉพาะทางเทคนิค
SYSTEM : 2/3 Way Stero / 4 Way Mono
FREQ : 20Hz – 20KHz
CROSS FREQ : LOW/MID : 50Hz-900Hz
MID/HIGH : 500Hz-9KHz
FILTER TYPE : LINKWITE – RILEY 24dB/OCTAVE
POWER SOURCE : 220 VAC
DIMENSIONS (WxHxD) : 483x44x175 MM. 1U ; 2.6KG
สรุป
NPE EN-234 เป็นอิเล็กทรอนิกส์ครอสโอเวอร์ ออกแบบและผลิตโดยบริษัทนัฐพงษ์ฯ ออกแบบมาเพื่อใช้ในระบบเสียงกลางแจ้งและงานติดตั้งถาวร จุดเด่นสำคัญคือวงจรฟิลเตอร์เป็นชนิด Linkwitz-Riley ความชัน 24dB/Octave (order 4th) สามารถจัดการย่าน high-pass และ low-pass ได้พร้อมๆ กัน ถือเป็นเป็นชนิดฟิลเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
ตัวอุปกรณ์ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ด้านหน้ามีลูกบิดต่างๆ ไว้ควบคุมสัญญาณ ปรับแต่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นค่า Gain ของเอาต์พุตต่างๆ รวมถึงยังมีปุ่ม INV ใช้สำหรับกลับเฟสสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการติดตั้งตู้ซับแบบ Cardioid sub ช่วยให้การวางซับแบบ End Fire Cardioid หรือ Inverse Stack Cardioid ได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังเครื่องมีช่อง XLR อินพุตและเอาต์พุตให้ครบถ้วน ด้านบนตัวถังมีสกรีนแผนผังไดอะแกรมให้อีกด้วย
หากใครกำลังมองหาครอสโอเวอร์แบบแอคตีฟที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันไม่ซับซ้อน เสียงดี แถมราคาไม่แพง ขอแนะนำ EN-234 ตัวนี้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง :
dB Mark DP26+ และ DP48+ ดิจิตอลครอสโอเวอร์
dB-Mark XCA+ Series ดิจิตอลครอสโอเวอร์
สามารถสอบถาม ติดตามข่าวสาร และข้อมูลได้ที่ :
สนใจสั่งซื้อสินค้า ผ่านเว็ปไซต์
www.mynpe.com
Line@ : http://bit.ly/LineMyNPEThailand
Facebook : http://m.me/mynpethailand
Twitter : twitter.com/mynpethailand
Instagram : instagram.com/mynpethailand
Youtube : www.youtube.com/user/mynpe
Tel : 02 225 0094 (Banmoh Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-banmoh
Tel : 02 992 7379 (Zeer Rangsit Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-zeer
Tel : 02 889 5498 (Salaya Branch)
Map : www.mynpe.com/mynpe-salaya