ลำโพงพร้อมแอมป์มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 8 นิ้ว ถึง 15 นิ้ว กำลังขับ 1100W ความดัง 134dB SPL พร้อม FIR ฟิลเตอร์
DXR mkII Series เป็นลำโพง Yamaha ที่มีการปรับปรุงคุณภาพโดยรวมให้ดีขึ้นกว่า Gen ก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความดัง ที่ให้ SPL สูง มีน้ำหนักเบา และมีโทนเสียงคมชัด มีมิติสเตริโอ
DXR mkII Series เป็นลำโพงที่ผลิตด้วยวัสดุเกรดดี มีการออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนบางอย่างขึ้นใหม่ เช่น ไดรเวอร์หรือดอกลำโพง เพื่อให้ได้คุณภาพตามที่โรงงานต้องการ
ลำโพง Series เปิดตัวออกมา โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ DXR8 mkII, DXR10 mkII, DXR 12 mkII และ DXR15 mkII หรือมีขนาด 8 นิ้วถึง 15 นิ้วนั่นเอง
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
ทำไมต้องเป็น DXR mkII
DXR mkII เป็นตู้แบบแอคตีฟ มีภาคขยายในตัว กำลังขับสูง และให้ SPL สูง เหมาะกับงานแทบทุกประเภท ภายในประกอบด้วยดอกลำโพงคุณภาพที่ทาง Yamaha คัสตอมขึ้นมาใหม่ รวมถึงดอกเสียงแหลมชนิดคอมเพรสชันไดรเวอร์ ซึ่งใช้แม่เหล็กชนิดนีโอไดเมียม น้ำหนักเบา ให้เสียงเคลียร์ มีความชัดเจน
DXR mkII มีการออกแบบโดยร่วมกับทีม NEXO ซึ่งหลายคนทราบดีว่า NEXO คือผู้ผลิตลำโพง PA มีชื่อเสียงระดับโลกมายาวนาน การได้ NEXO มาช่วยออกแบบจึงทำให้ลำโพง Series มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น
คัสตอมชิ้นส่วนขึ้นใหม่
ดอกลำโพงของ DXR mkII ถูกสั่งผลิตขึ้นใหม่ ตามดีไซน์ของวิศวกร ทำให้ลำโพง DXR mkII ตอบสนองย่านความถี่ต่ำได้ดี แก้ปัญหาดิสตอร์ชันของเสียง รวมถึงการตอบสนองย่านความสูงๆ ได้ดีขึ้น
DXR mkII มีปากฮอร์นหรือ waveguide ช่วยให้ควบคุมการกระจายเสียงได้แม่นยำ โดยเสียงแหลมจะมีทิศทางมากขึ้น โดยมุมกระจายเสียงในแนวนอนเท่ากับ 90 องศา และแนวตั้ง 60 องศา
มาพร้อม FIR
คุณสมบัติเด่นของ DXR ทั้ง Gen ก่อนหน้าและล่าสุดอย่าง mkII มีการจูนด้วย FIR ฟิลเตอร์ โดยข้อดีของฟิลเตอร์ชนิดนี้ ในสายสตูดิโอเริ่มให้ความสำคัญ จุดเด่นของมันคือทำให้เกิดมิติสเตริโอที่ดีกว่า นอกจากนั้นยังมีวงจร Limiter ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานแบบหนักๆ และยังช่วยให้ได้ความดังอย่างสม่ำเสมอ
FIR ฟิลเตอร์ที่อยู่ใน DXR mkII จะอาศัยการประมวลผลของชิป DSP ความละเอียด 48-bit ช่วยให้เกิดลีเนียร์เฟสที่ดี กล่าวคือช่วยให้การตอบสนองความถี่และเฟสดีขึ้น ตลอดจนช่วยในเรื่องการปรับแต่งค่า time alignment ของไดรเวอร์ตู้ลำโพงให้เหมาะสม
ใช้งานได้เอนกประสงค์
Yamaha ออกแบบลำโพง Series นี้ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นลำโพงมอนิเตอร์บนเวที ใช้เป็นลำโพง Main PA หรือติดตั้งในลักษณะห้อย/แขวนบนเพดาน ในการแต่ละประเภทการตอบสนองความถี่อาจแตกต่างกัน
Yamaha จึงใส่ฟังก์ชัน D-CONTOUR โดยจุดเด่นของฟังก์ชันนี้จะช่วยปรับเสียงให้เข้ากับลักษณะงานที่เราติดตั้ง เช่นใช้เป็นตู้ลำโพงหลัก (FOH/Main) หรือใช้เป็นลำโพงมอนิเตอร์บนเวที (Monitor) ปกติแล้วลำโพงหลักควรให้โทนเสียงครอบคลุมทุกอย่างความถี่ ขณะลำโพงมอนิเตอร์ควรตอบสนองเฉพาะย่านความถี่ที่ศิลปินต้องการ ลดทอนความถี่บางย่านที่ไม่จำเป็นออกไป เช่นความถี่ต่ำ แต่ไม่ว่าจะใช้โหมดไหน ความชัดเจนของเสียงจะต้องยังคงอยู่
ให้กำลังขับสูง
ทุกรุ่นจะมีกำลังขับสูงถึง 1100W ในรุ่น 12 นิ้วและ 15 นิ้ว จะให้ความดังสูงสุด 134dB SPL ส่วนรุ่น 10 นิ้วจะให้ความดังสูงสุด 132dB SPL และรุ่น 8 นิ้ว 130dB SPL ถือเป็นลำโพงที่มีความไวมากๆ ตัวหนึ่งในท้องตลาดเลยทีเดียว ภายในมีภาคขยายวงจร Class-D ภาคจ่ายไฟเป็นแบบสวิตชิ่ง น้ำหนักเบา ทำให้ขนย้ายสะดวก
มิกเซอร์ 3 แชนแนล
DXR mkII มาพร้อมมิกเซอร์ 3 แชนแนล ผู้ใช้สามารถนำสัญญาณจากภายนอกมาเชื่อมต่อแล้วใช้งานได้เลย โดยมีช่องเชื่อมต่อให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ XLR, Line และ RCA L/R โดยแชนแนล 1 สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณ MIC/LINE ด้านล่างมีช่อง THRU ส่วนแชนแนล 2 สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณ LINE กับแจ็ค TRS/TS และแชนแนล 3 สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณ LINE ชนิด RCA โดยทุกแชนแนลจะมีโวลุ่มควบคุมดังเบาของสัญญาณแยกอิสระ สามารถใช้งานได้ทั้งในลักษณะ MONO และ STEREO โหมด
DXR mkII ดีกว่า DXR รุ่นเก่าหรือไม่
ด้วยความที่เป็นรุ่นใหม่ ย่อมมีอะไรที่ดีกว่า แต่ก็ใช่ว่ารุ่นเก่าจะแย่ไปหมด เพราะ DXR Series ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ผ่านไป 10 ปีก็ยังใช้งานได้ปกติ เพียงแต่รุ่นใหม่ได้มีการปรับปรุงเรื่องของความดัง กำลังขับ ชนิดแม่เหล็ก และสเป็คของดอกลำโพง มีการคัสตอมไดรเวอร์ขึ้นใหม่นั่นเอง
DXR8 mkII
ลำโพง 2 ทางแบบ Bi-amp ดอกลำโพงขนาด 8 นิ้วแบบ Bass-reflex ตอบสนองความถี่ช่วง 57Hz-20kHz มุมกระจายเสียง 90×60 องศา แม่เหล็กดอกเสียงทุ้มเป็นชนิด Ferrite และดอกเสียงแหลมแม่เหล็กชนิด Neodymium กำลังขับรวม 1100W แยก LF:950, HF: 150W ให้ความดังที่ 130dB SPL มีภาค D-CONTOUR รองรับการใช้งานแบบ FOH/MAIN,MONITOR น้ำหนักตู้ 12.8kg
DRX10 mkII
ลำโพง 2 ทางแบบ Bi-amp ดอกลำโพงขนาด 10 นิ้วแบบ Bass-reflex ตอบสนองความถี่ช่วง 56Hz-20kHz มุมกระจายเสียง 90×60 องศา แม่เหล็กดอกเสียงทุ้มเป็นชนิด Ferrite และดอกเสียงแหลมใช้แม่เหล็กชนิด Neodymium ว้อยคอยล์ขนาด 2 นิ้ว กำลังขับรวม 1100W แยก LF:950, HF: 150W ให้ความดังที่ 132dB SPL มีภาค D-CONTOUR รองรับการใช้งานแบบ FOH/MAIN, MONITOR ใช้ไฟ 90W น้ำหนักตู้ 13.9kg
DRX12 mkII
ลำโพง 2 ทางแบบ Bi-amp ดอกลำโพงขนาด 12 นิ้วแบบ Bass-reflex ตอบสนองความถี่ช่วง 52Hz-20kHz มุมกระจายเสียง 90×60 องศา แม่เหล็กดอกเสียงทุ้มเป็นชนิด Ferrite และดอกเสียงแหลมใช้แม่เหล็กชนิด Neodymium ว้อยคอยล์ขนาด 2.5 นิ้ว กำลังขับรวม 1100W แยก LF:950, HF: 150W ให้ความดังที่ 134dB SPL มีภาค D-CONTOUR รองรับการใช้งานแบบ FOH/MAIN, MONITOR ใช้ไฟ 110W น้ำหนักตู้ 18.6kg
DRX15 mkII
ลำโพง 2 ทางแบบ Bi-amp ดอกลำโพงขนาด 15 นิ้วแบบ Bass-reflex ตอบสนองความถี่ช่วง 49Hz-20kHz มุมกระจายเสียง 90×60 องศา แม่เหล็กดอกเสียงทุ้มเป็นชนิด Ferrite และดอกเสียงแหลมใช้แม่เหล็กชนิด Neodymium ว้อยคอยล์ขนาด 2.5 นิ้ว กำลังขับรวม 1100W แยก LF:950, HF: 150W ให้ความดังที่ 134dB SPL มีภาค D-CONTOUR รองรับการใช้งานแบบ FOH/MAIN, MONITOR ใช้ไฟ 110W น้ำหนักตู้ 21.8kg
สรุป
ถ้าต้องการลำโพง 2 ทางที่มีขนาดเล็กเพื่อใช้งานในห้องหรือพื้นที่ไม่ใหญ่ สามารถโฟกัสเป็นจุดๆ ในมุมแคบได้ดี เช่นมอนิเตอร์นักดนตรี มอนิเตอร์สำหรับนักร้องประสานเสียง ให้เลือกรุ่น DXR8 mkII ขนาด 8 นิ้ว
ถ้าต้องการลำโพง 2 ทางที่มีขนาดเล็ก-กลาง เพื่อใช้ติดตั้งในขนาดห้องเล็กหรือในบริเวณและกลางๆ เช่น ห้องสอนโยคะ ฟิสเนส ห้องประชุมองค์กร ร้านอาหารที่เน้นฟังเพลงเป็นหลัก หรือมอนิเตอร์เวทีขนาดเล็ก ให้เลือกรุ่น DXR10 mkII ขนาด 10 นิ้ว
ถ้าต้องการลำโพง 2 ทาง ที่มีขนาดกลาง-ใหญ่เพื่อใช้งานอีเว้นต์ คอนเสิร์ตกลางแจ้ง ในโรงแรม รีสอร์ท ปาร์ตี้ในที่โล่ง สามารถใช้เป็นลำโพงหลัก หรือมอนิเตอร์บนเวทีขนาดกลางไปหาใหญ่ได้ ให้เลือกรุ่น DXR12 mkII จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้คือให้เสียงร้องชัดกว่า กรณีเป็นคอนเสิร์ตสามารถใช้งานร่วมกับตู้ซับวูฟเฟอร์ DXS Series เพื่อช่วยเสริมย่านความถี่ต่ำได้
ถ้าต้องการลำโพง 2 ทาง ที่มีขนาดใหญ่เพื่อใช้งานอีเว้นต์ คอนเสิร์ตกลางแจ้ง ในโรงแรม รีสอร์ท สามารถใช้เป็นลำโพงหลัก หรือมอนิเตอร์บนเวทีขนาดกลาง/ใหญ่ได้ ถ้าเน้นใช้เป็นตู้ MAIN/FOH เป็นหลัก ให้เลือกรุ่น DXR15 mkII จ่ายหนักแต่จบ จุดเด่นของรุ่นนี้คือให้เสียงทุ้มที่ดีกว่า มีมวลเสียงหนากว่า อย่างไรก็ดี สามารถใช้งานร่วมกับตู้ซับวูฟเฟอร์ DXS Series เพื่อช่วยเสริมย่านความถี่ต่ำได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง :
Yamaha DXR mkII ลำโพงโฉมใหม่ปี 2019
Yamaha A Series ลำโพง Passive
DZR Series ลำโพง Active 2000W จาก Yamaha
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด
เพจ Yamaha Pro Audio Thailand
โทร. (02) 215-2626-39