TX208: กำลังขับสูงสุด 300W ลำโพง 2 ทาง ขนาด 8 นิ้ว ความดังสูงสุด 113dB SPL ตอบสนองความถี่ 75Hz-20kHz
TX210: กำลังขับสูงสุด 300W ลำโพง 2 ทาง ขนาด 10 นิ้ว ความดังสูงสุด 116dB SPL ตอบสนองความถี่ 75Hz-20kHz
TX212: กำลังขับสูงสุด 600W ลำโพง 2 ทาง ขนาด 12 นิ้ว ความดังสูงสุด 118dB SPL ตอบสนองความถี่ 70Hz-20kHz
TX215: กำลังขับสูงสุด 600W ลำโพง 2 ทาง ขนาด 15 นิ้ว ความดังสูงสุด 119dB SPL ตอบสนองความถี่ 65Hz-20kHz
RT60
Alto เป็นแบรนด์สินค้าจากอเมริกา หลายคนรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นมิกเซอร์อะนาล็อค ในเมืองไทยถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่กี่ปีมานี้ Alto ได้มุ่งเน้นพัฒนาสินค้ากลุ่มลำโพง PA ออกสู่ตลาด ให้เทียบแบรนด์ชั้นนำ เปิดตัวหลายรุ่น หลาย Series เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการผู้ใช้งาน
หากกล่าวถึงลำโพง Alto ยังจัดเป็นสินค้าเกรดดี มีคุณภาพ มีราคาคุ้มค่า และลำโพง Alto TX2 Series เป็นลำโพงอีกหนึ่ง Series ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งเป็นลำโพง 2 ทาง ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 รุ่นคือ TX208, TX210, TX212 และ TX215 แถมยังมีตู้ซับวูเฟอร์อีกรุ่นคือ TX212S อีกด้วย
Alto TX2 Series เป็นลำโพงแอคตีฟรุ่นรองจาก Alto Truesonic ซึ่งใน Series เหล่านั้นจะมีลูกเล่นเยอะกว่า สำหรับ TX2 Series มีลูกเล่นธรรมดา แต่ราคาประหยัดกว่าพอสมควร
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Alto TX208
Alto TX208 เป็นลำโพงขนาด 8 นิ้ว ว้อยคอยล์ประมาณ 1.5 นิ้ว หรือ 38mm. ส่วนดอกขับเสียงแหลมขนาด 1 นิ้ว เป็นไททาเนียมไดอะแฟรม ว้อยคอยล์ 1 นิ้ว กำลังขับ 300W Peak ส่วนวัตต์ใช้งานจริงประมาณ 150 วัตต์ ภาคขยายเป็นแบบ Class-D สำหรับมุมกระจายเสียงแนวนอน 90 องศา ส่วนแนวตั้ง 60 องศา ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 75Hz-20kHz @ -3dB จุดตัดครอสโอเวอร์ 2.5kHz ให้ความดังสูงสุด 113dB SPL
ด้านหลังตู้ลำโพงจะมีอินพุต 1 ช่องแบบบาลานซ์หรือ XLR ตัวเมีย และช่องลิงค์แบบบาลานซ์ XLR ตัวผู้ไปลำโพงใบอื่นๆ ปกตินิยมลิงค์กัน 2 ใบ ผ่านสายสัญญาณสั้นๆ ถ้าลิงค์หลายใบจะมีปัญหาเรื่องอิมพีแดนซ์ ด้านหลังยังมีโวลุ่มปรับ 2 โหมดการทำงาน กล่าวคือลักษณะใช้กับสัญญาณไลน์จะเป็นโหมดหนึ่ง เช่นสัญญาณที่มาจากมิกเซอร์ เครื่องเล่น MP3/Player ต่างๆ ขณะเดียวกันสามารถเชื่อมต่อกับไมค์ได้ กรณีใช้กับไมค์จะต้องปรับโวลุ่มมากกว่าปกติ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับ Gain ที่ใช้งาน รุ่นนี้ใช้ได้เฉพาะไมค์แบบไดนามิก
Alto TX208 ด้านหน้าและด้านหลัง
นอกจากนี้ยังมีช่องระบายอากาศ รุ่นนี้ไม่มีพัดลม เมื่อเปิดสวิตซ์ทำงาน ด้านหลังจะแสดงไฟ LED สว่างเป็นสีเขียว ด้านบนเป็น LED ที่แสดงสถานะเมื่อสัญญาณถูกป้อนเกินระดับซึ่งจะโชว์สถานะ Limit เป็นสีแดง หากระดับสัญญาณปกติจะโชว์เป็นสีเขียว การแสดงสถานะจะโชว์ 2 สีในหลอดเดียวกัน สามารถใช้กับไฟฟ้าได้หลายระดับ 100V, 110V และ 220V ปลั๊ก AC ด้านหลังมี 3 ขามาตรฐาน IEC มีกราวน์และฟิวส์อยู่ภายใน
น้ำหนักตู้ TX208 ประมาณ 6.3 กิโลกรัม ส่วนด้านล่างตู้เป็นเมาน์ติ้ง 36mm. ไม่มีสกรูขัน สามารถวางเป็นลำโพงสเตจมอนิเตอร์ได้ คือตู้มีลักษณะเป็นทรงกึ่งคางหมู สามารถแขวนในงานติดตั้งถาวรได้ วางเอียงได้ด้านเดียว ขณะบางยี่ห้อหรือบางรุ่นอาจวางได้ทั้ง 2 ด้าน พลิกซ้าย/ขวาได้ ด้านหน้าตู้มีไฟสีฟ้าแสดงสถานะว่าขณะนั้นตู้ทำงานอยู่ ติดอยู่โลโก้ Alto มีความสวยงามโดดเด่น และมีตะแกรงเหล็กพ่นสีดำ ตู้ทำด้วยวัสดุพลาสติก ด้านล่างมีพอร์ตลม 2 ช่องซ้าย/ขวา หูจับมีเฉพาะด้านบน
Alto TX210
คุณสมบัติโดยรวมจะคล้ายกับรุ่น TX208 ไล่ตั้งแต่กำลังขับไปจนถึงลักษณะการออกแบบตู้ แอคเซสซอรี่การใช้งานด้านหลัง ยกเว้นขนาดของดอกลำโพง TX210 เป็นลำโพงขนาด 10 นิ้ว ว้อยซ์คอยล์ขนาดเท่ากัน มุมกระจายเสียงเท่ากัน แต่ให้ความดังสูงกว่านั่นคือ 116dB SPL หูจับตู้ก็มีเฉพาะด้านบน รูเสียบเสาติดตั้งก็เท่ากัน ไม่สกรูหรือน็อตล็อคเสา ตู้เล็กๆ ส่วนใหญ่บางทีก็ไม่ค่อยใช้กัน ส่วนสติกเกอร์ที่แปะด้านหน้าตู้เวลาใช้งานจริง ต้องแกะออก เพราะจะบังเสียงปากฮอร์น น้ำหนักตู้รุ่นนี้ 7.6 กิโลกรัม
Alto TX210 ด้านหน้าและด้านหลัง
Alto TX212
ลำโพงรุ่นนี้มีขนาดไดรเวอร์ 12 นิ้ว ขนาดของว้อยซ์คอยล์ 2 นิ้ว ส่วนดอกขับเสียงแหลมเป็นนีโอไดเมียมแบบคอมเพรสชัน 1 นิ้ว ภาคขยายกำลังขับสูงสุด 600W กำลังขับปกติ 300W มุมกระจายเสียงแนวนอน 90 องศา และแนวตั้ง 60 องศา การตอบสนองความถี่อยู่ที่ 70Hz-20kHz @ -3dB จุดตัดครอสโอเวอร์ 2.5kHz ให้ความดังสูงสุด 118dB SPL จะเห็นว่าให้ความดังสูงกว่าทั้งในรุ่น TX208 และ TX210
เมื่อสำรวจด้านหลังตู้เห็นชัดว่ามีความแตกต่างจากรุ่น 8 นิ้วและ 10 นิ้ว เริ่มจากช่องเชื่อมต่อสัญญาณอินพุต ในช่องเดียวจะเชื่อมต่อได้ทั้ง XLR และแจ็คโฟน หรือที่นิยมเรียกกันว่าช่อง Combo แบบบาลานซ์ ด้านข้างมีช่องลิงค์ให้หนึ่งช่อง เป็น XLR ตัวผู้ รูปแบบสัญญาณอินพุตในรุ่นเล็กกว่าจะไม่สามารถเลือกชนิดของสัญญาณอินพุตได้ ในรุ่น TX212 สามารถเลือกชนิดของสัญญาณอินพุตได้ เลือกได้ว่าจะรับเป็นสัญญาณ Line หรือ Mic ได้ ซึ่งด้านล่างของช่องอินพุตจะมีสวิตซ์ให้ปรับได้
Alto TX212 ด้านหน้าและด้านหลัง
รวมถึงยังมีหลอด LED แสดงสถานะการทำงานของสัญญาณในขณะนั้นๆ หากสัญญาณอยู่ในระดับปกติหลอด LED จะเป็นสีเขียว หากสัญญาณเกินค่าที่กำหนดจะสว่างเป็นสีแดง ส่วน Power จะเป็นสีเขียว นอกจากนั้นยังมีสวิตซ์อีก 2 ตัว ตัวแรกเป็นสวิตซ์ Contour ถ้าเรากดสวิตซ์ขึ้นจะเป็นการทำงานในสภาวะปกติจะได้โทนเสียงตามที่ป้อนอินพุตเข้าไป (Contour off) แต่หากกดปุ่มให้ทำงาน จะเป็นการ Boost ย่านเสียงทุ้มและแหลมเพิ่มขึ้นประมาณ +3dB ก็จะได้ยินโทนเสียงที่หนักแน่นขึ้น ถัดลงมาเป็นสวิตซ์กราวน์ ถ้าสวิตซ์ลอยขึ้น (Off) กราวน์ของตู้ลำโพงกับสัญญาณอินพุตจะแยกกัน แต่เมื่อกดสวิตซ์ลง (On) จะเป็นการเลือกให้กราวน์ตู้ลำโพงและอินพุตยุบรวมกัน อย่างไรก็ดี ไม่สามารถระบุได้ว่าควรจะกดใช้งานหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะระบบไฟฟ้าของผู้ใช้เป็นหลัก
TX212 มีพัดลมระบายอากาศให้ เนื่องจากรุ่นนี้มีกำลังขับสูงกว่า 2 เท่า ย่อมมีปัญหาความร้อนเพิ่มขึ้น ทางโรงงานจึงออกแบบระบบระบายอากาศมาให้ ด้านบนของหลังตู้ยังมีช่องลมระบายอากาศให้เช่นกัน ปลั๊ก AC เหมือนกับรุ่น 8 นิ้วและ 10 นิ้ว แต่จะออกแบบตำแหน่งไว้คนละด้าน สิ่งที่แตกต่างกันอีกอย่างคือหูจับจะมีทั้งด้านบนตู้และด้านข้างตู้ 2 ด้าน ด้านล่างตู้จะมีช่องเสียบเสาพร้อมน็อตขันเพื่อล็อคเสากับขาตั้งให้แน่นหนา ใช้เป็นสเตจมอนิเตอร์ หรือลำโพงหลักได้ น้ำหนักตู้ลำโพง 14.2 กิโลกรัม
Alto TX215
รุ่น TX215 เป็นตู้ลำโพง 2 ทางขนาด 15 นิ้ว สเป็คส่วนใหญ่คล้ายกับ TX212 แต่สิ่งที่ต่างกันระหว่าง TX215 กับ TX212 คือการตอบสนองความถี่ตัว 15 นิ้วได้กว้างกว่า เพราะตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 65Hz-20kHz จุดตัดครอสโอเวอร์ตัดที่ความถี่ 2.2kHz ในขณะรุ่น TX208, TX210 และ TX212 ตัดความถี่ 2.5kHz รุ่นนี้ให้ความดังสูงสุด 119dB SPL ส่วนปุ่ม Contour และกราวน์มีให้เช่นกัน น้ำหนักตู้ลำโพง 14.6 กิโลกรัม ด้านหลังมีพัดลมระบายอากาศ การสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเท่ากับรุ่น 12 นิ้วคือกินไฟ 260W ส่วนรุ่น 8 นิ้วและ 10 นิ้วนั้นจะกินไฟประมาณ 150W ตรงนี้เอาไว้คำนวณเครื่องปั่นไฟหรือแหล่งจ่ายที่จะนำมาใช้งานในอีเว้นต์นั้นๆ รุ่น 15 นิ้วมีหูจับ 3 ด้านคือด้านบนและด้านข้างอีก 2 จุด ด้านล่างมีช่องเสียบขาตั้งพร้อมน็อตล็อค
Alto TX215 มุมมองต่างๆ
สรุป
สำหรับลำโพง TX2 Series นั้นถือเป็นลำโพงแอคตีฟคุณภาพ ในราคาย่อมเยา มีฟังก์ชันการใช้งานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เริ่มจากรุ่น TX208 และ TX210 เหมาะกับการใช้ในห้องประชุมเล็กๆ หรืองานอีเว้นต์เล็กๆ บูธสินค้าตามห้างสรรพสินค้าที่ไม่ต้องการความดังมากนัก ยืนพูดคนเดียวได้ แต่ทั้ง 4 รุ่นนี้ทำงานคนเดียวก็ได้ ความแตกต่างระหว่างตู้แอคตีฟและพาสซีฟนั้น ผู้ใช้จะต้องเดินสายสัญญาณไปพร้อมกับชุดจ่ายไฟ ขณะตู้พาสซีฟจะเดินเฉพาะสายสัญญาณอย่างเดียว การติดตั้งแนะนำให้ใช้แหล่งจ่ายไฟที่มาจากแหล่งเดียวกัน
รุ่น TX212/TX215 ใช้กับงานที่ต้องการเสียงดังขึ้น งานดนตรีสด งานพูด หรืออื่นๆ เช่นงานดนตรีเล่นโฟล์คซอง ทำเป็น wedge มอนิเตอร์ ตู้ PA แต่ทั้งนี้ตู้ 8 นิ้วหรือ 10 นิ้วก็ทำมอนิเตอร์ได้มันขึ้นอยู่กับขนาดเวที รวมถึงระดับความดังที่นักดนตรีหรือนักร้องต้องการแค่ไหน การทำมอนิเตอร์อาจจะต้องระวังเสียงแหลมเพราะหากเกิดหวีดหอนอาจจะเสียหายง่าย เพราะมีขนาดว้อยซ์คอยล์ที่ถือว่าเล็ก ตู้ใหญ่จะให้เนื้อเสียงที่ดีกว่า
แม้ตู้จะมีขนาดใกล้เคียงกัน ก็ยังขึ้นอยู่กับการควบคุมของผู้ใช้ในระหว่างใช้งานอีกด้วย ตู้ 12 นิ้วจะให้ย่านเสียงร้องที่คมชัดกว่า แต่ย่านทุ้มรุ่น 15 นิ้วจะตอบสนองได้ลึกกว่า ถ้าทำธุรกิจเครื่องเช่า และต้องการรับงานได้หลากหลาย หากต้องการจบทีเดียว แนะนำเป็นตู้ 15 นิ้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง :
Alto Sub TS Series ลำโพงซับวูเฟอร์
Review | Alto TROUPER ลำโพงคอมแพ็ค PA
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บริษัท พีเอ ซาวด์ เซนเตอร์ จำกัด
330/2-3 ถ.สกลนคร-กาฬสินธุ์ ต.ธาตุเชิงชุม
อ.เมือง จ.สกลนคร 47000
TEL 082-8556449 FAX 042-711881
LINE ID : @tpesound
Email : tpe_sound@yahoo.com
facebook : PA Sound Center – TPESound
Website www.tpesound.com